บ้านสองชั้นผนังกระจก

บ้านสองชั้นผนังกระจก  เปิดรับลมชมวิวรอบบ้าน

บ้านสองชั้นผนังกระจก ผนังกระจก คือ ผนังที่ทำจากกระจกทั้งผืนโดยมีความสูงตั้งแต่พื้นถึงท้องคาน หรือท้องพื้นชั้นบน หรืออาจสูงต่อเนื่องมากกว่าหนึ่งชั้น มีทั้งบานกระจกแบบติดตาย และบานกระจกที่เป็นช่องเปิดประตู-หน้าต่าง หรือจะติดตั้งทั้งสองแบบไว้ร่วมกัน สามารถแบ่งตามรูปแบบการติดตั้งได้เป็น 2 แบบ ดังนี้ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด 
.
1. ระบบโครงสร้างผนังกระจก (Structural Glass Wall หรือ Glass Wall) เป็นผนังกระจกสูงผืนใหญ่นิยมใช้กับห้องเพดานสูง ห้องโถง โถงบันได โถงลิฟต์ หรืออาคารสาธารณะที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น ห้างสรรพสินค้า ศูนย์ประชุม ระบบนี้จะประกอบด้วยกระจกและโครงสร้างที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผนังกระจกทั้งผืนสามารถตั้งอยู่ได้ โดยโครงสร้างดังกล่าวจะมีรูปแบบและวิธีการติดตั้งอยู่ 4 ลักษณะ คือ โครงสร้างเหล็ก (Steel Structure System) โครงสานเหล็กรับแรงดึง (Tension Rod System) โครงสันกระจก (Glass Rib System) และโครงเคเบิลขึง (Cable Net System)
.

2.ระบบผนัง Curtain wall เป็นระบบที่ยึดหรือแขวนผืนผนังกระจกเข้ากับโครงสร้างของอาคารบริเวณหน้าคาน สันของแผ่นพื้น หรือสันของแผ่นพื้นไร้คาน โดยจะประกอบกระจกเข้ากับโครงเหล็กหรืออะลูมิเนียมซึ่งมีทั้งรูปแบบที่เห็นโครงในแนวตั้ง-นอนทั้งภายในและภายนอกอาคาร และรูปแบบที่ซ่อนโครงไว้ภายในอาคารส่วนภายนอกจะเห็นเป็นกระจกประกอบชนกัน ระบบนี้นิยมใช้กับผนังภายนอกอาคารสูงหรืออาคารที่มีผนังกระจกสูงต่อเนื่องหลายชั้น ซึ่งอาจมีบางส่วนเป็นเปลือกอาคารหรือเป็นผนังอาคารซ้อนกันสองชั้นที่ติดตั้งระบบผนังโครงเบาและฉนวนกันความร้อนไว้ด้านหลัง ในกรณีที่พื้นที่ส่วนดังกล่าวถูกออกแบบเป็นห้องที่มีผนังทึบ เช่น ห้องน้ำ ปล่องลิฟต์ ห้องงานระบบต่างๆ เป็นต้น

แบบบ้านโมเดิร์นผนังกระจก ดูเรียบง่ายอยู่สบาย

“Villa 174” ตั้งอยู่ใน Khezershahr เมืองชายฝั่ง Babolsarทางตอนเหนือของอิหร่าน ที่นี่มีสภาพอากาศอบอุ่นและมีฝนชุก ตัวอาคารสร้างขึ้นบนกฎระเบียบผังเมือง คือ กำหนดความสูงสูงสุดของแต่ละวิลล่าคือ 9 เมตร วัสดุภายนอกคือ งานไม้หรือหินเรียงกันแล้วใช้ปูนทราย (mortar) เป็นตัวเชึ่อมประสานโดยรอบก้อนหิน ส่วนรั้วจะไม่แนะนำให้ก่ออิฐฉาบปูน ทั้งนี้เพื่อให้บ้านมีความต้านทานต่อสภาพอากาศในโซนนั้นมากที่สุด เจ้าของบ้านเป็นคู่รักวัยกลางคนที่มีลูกชายสามคน พวกเขาคาดหวังจะเห็นสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยแสง และมีพื้นที่ใช้ชีวิตส่วนรวมที่ชั้นล่างที่ใส่ทุกกิจกรรมที่ทุกคนชอบเข้าไว้ด้วยกัน

บ้านดีไซน์เรียบหรู แต่คิดมาดีทุกฟังก์ชัน บ้านหลังนี้ออกแบบในสไตล์โมเดิร์น ที่แตกต่างจากอาคารหลังคาหน้าจั่วอื่น ๆ ในละแวกใกล้เคียง ซึ่งจะให้ความรู้สึกของความหนักมากกว่า หลังคาของ “วิลล่า 174” นั้นเป็น slab แผ่นบางใส่ระดับที่แตกต่างกัน แผ่นหลังคาเหล่านี้ไม่เพียง แต่ซ่อนความลาดของหลังคาที่เอียงไปด้านหลัง แต่ยังเน้นให้เห็นความเบาของหลังคาด้วย สำหรับฐานของบ้านจะยกสูงจากพื้นเล็กน้อยและมีพนังกันกั้นความชื้นจากดินขึ้นสู่ตัวบ้าน อีกทั้งใส่กันสาดตรงหน้าต่างป้องกันช่วงที่ฝนตกหนักด้วย

หน้าบ้านทำทางเดินปูด้วยแผ่นคอนกรีตเว้นช่องล้อมรอบต้นไม้ใหญ่อยู่กึ่งกลางบ้าน ให้ต้นไม้เติบโตสร้างร่มเงาเพิ่มความสดชื่นและลดความแข็งของเส้นสายเรขาคณิต จากนั้นจึงมีสเต็ปขนาดใหญ่อีก 2 ชั้น ให้ผู้มาเยือนค่อย ๆ เดินขึ้นก่อนเปิดเข้าสู่ตัวบ้าน

ชั้นล่างประกอบด้วยทางเข้าห้องรับแขก ห้องนั่งเล่นดูทีวี ห้องครัว และห้องนอนสำหรับคุณย่าที่จะแวะมาเยี่ยมเป็นครั้งคราว ซึ่งจะอยู่ด้านหน้าติดกับสวนหน้าบ้าน ทำให้ได้รับความสดชื่นได้เต็มที่และเห็นวิวถนน ส่วนชั้นบนมีห้องนอนใหญ่ ห้องนอนเด็ก ห้องครัว และห้องนั่งเล่นขนาดเล็ก ระเบียงหลักตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือ สามารถเข้าถึงได้จากห้องนอนและห้องนั่งเล่น บ้านจัดสรร

โปร่งสว่างเชื่อมต่อภายนอกภายใน

ด้านหลังบ้านหันหน้าไปทางทิศเหนือ เราจะเห็นระเบียงที่ใส่แผงกันตกกระจกใสมีหลังคาคลุม ออกแบบมาเพื่อควบคุมแสงดวงอาทิตย์และปริมาณน้ำฝน ทำให้สามารถใช้งานระเบียงได้ตลอดทั้งปี ชั้นล่างปูพื้นไม้เชื่อมต่อตัวบ้านออกมายังพื้นที่ใช้ชีวิตกลางแจ้ง ส่วนหนึ่งเป็นมุมนั่งเล่นมีหลังคาคลุมไม่ต้องกลัวแดดฝนและสระว่ายน้ำ ส่วนที่เหลือเป็นพื้นที่โล่งต่อเชื่อมกับสนามหญ้า สามารถปรับเปลี่ยนใช้งานพื้นที่ได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นการออกมาทานอาหารนอกบ้าน ปาร์ตี้ปิ้งย่างกับครอบครัวในวันหยุด หรือเชิญเพื่อนมาสังสรรค์ในเทศกาลสำคัญ ๆ บ้านผนังกระจก

ความตั้งใจในการออกแบบเบื้องต้น คือ เพื่อให้พื้นที่ภายในเต็มไปด้วยแสงสว่าง มีการระบายอากาศตามธรรมชาติที่ดี เป้าหมายนี้ประสบความสำเร็จโดย การสร้างรูปแบบอาคารที่โปร่งใสจากวัสดุกระจกที่สูงจากพื้นจรดเพดาน และวางช่องเปิดขนาดใหญ่ทั้งด้านทิศเหนือและทิศใต้ เพื่อให้ผนังใส ๆ นี้เป็นจุดเปิดรับแสง ลม และเป็นตัวช่วยเบลอขอบเขตการใช้งานภายในออกสู่ภายนอก เปิดมุมมองให้ดื่มด่ำบรรยากาศจากวิวธรรมชาติไปพร้อม ๆ กันด้วย

ภาพรวมโทนสีของวัสดุที่นักออกแบบเลือกใช้ จะเป็นโทนสีกลาง ๆ ที่ไปในทิศทางเดียวกัน เช่น สีไม้ธรรมชาติ สีขาว และสีเทา ตัดเส้นสายตาด้วยสีดำ ในท่ามกลางโทนสีเรียบ ๆ เราจะได้เห็นฟังก์ชันสนุก ๆ แบบบ้านโมเดิร์นที่ซ่อนอยู่ภายใน เช่น ผนังที่ทำหน้าที่เป็นประตูได้อย่างแนบเนียน ผนังบิวท์อินบานตู้ ที่เก็บของในบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีตู้วางกับพื้นให้กีดขวางทางจราจร

สเปซโล่งกว้าง นิ่ง ๆ ใช้งานสบายๆ

เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ภายในบ้านเลือกเพียงแค่ชิ้นหลักๆ ที่จำเป็นต้องใช้งาน อย่างเช่น ชุดโซฟา โต๊ะรับประทานอาหาร เก้าอี้ ที่ถูกจัดวางเป็นสัดส่วน แม้แต่ส่วนห้องครัวและโซนรับประทานอาหารก็แยกกันอย่างชัดเจนผ่านผนังบิวท์อินที่คั่นอยู่ ในชั้นล่างแม้จะเป็นส่วนใช้ชีวิตร่วมกัน แต่สเปซที่ค่อนข้างมาก และดูนิ่ง เรียบง่าย ไม่หนาแน่น สามารถใช้งานพร้อมกันได้สบาย ๆ

อีกจุดโฟกัสสายตาใจกลางบ้าน คือบันไดสีดำที่นำทางขึ้นไปสู่ชั้นบนวนขึ้นไป เหมือนลอยตัวอยู่กลางพื้นฉากหลังสีขาว ตรงนี้เป็นทั้งจุดเชื่อมต่อพื้นที่ และจุดเชื่อมต่อปฏิสัมพันธ์ของสมาชิกในบ้านที่อยู่ระหว่างชั้น ผ่านความโปร่งใสของแผงกันตกและโถงสูงที่เจาะอยู่เหนือบันได

ทุกพื้นที่คำนึงถึง แสง ลม ฝน

นอกจากการดีไซน์บ้าน โดยให้ความสำคัญกับ แสง พื้นที่ ฟังก์ชัน และวัสดุ แล้ว นักออกแบบยังให้ความสำคัญกับทิศทางของลมและฝน บ้านนี้ตั้งอยู่ในทิศทางที่ ได้รับลมทะเล จึงจัดห้องนอนใหญ่ให้ทอดตัว จากเหนือจรดใต้ เพื่อให้ช่วงเวลาพักผ่อนเต็มไป ด้วยบรรยากาศที่สดใส และได้รับประโยชน์จากการ ระบายอากาศตามธรรมชาติมากที่สุด  ในองค์ประกอบของ บ้านโมเดิร์นที่ดูเรียบ ๆ นอกจากจะเพิ่มสีสันด้วยของแต่ง บ้านที่เข้ากันได้ดีแล้ว “แสง”ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะเปลี่ยนความธรรมดาในตอนกลางวัน ให้กลายเป็นสถาปัตยกรรม ที่อารมณ์แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ในตอนกลางคืน เพียงติดโคมไฟประดับเรียงราย อยู่ตามทางเดินของบ้าน ใต้ต้นไม้ เพดาน ผนัง ซึ่งบางจุดเป็นเพียงองค์ประกอบที่ไม่ได้มีฟังก์ชันให้ความสว่างโดยตรง แต่ก็ช่วยเสริมบรรยากาศ ของบ้านให้สวยงาม อบอุ่น และน่าอยู่ขึ้นอย่างมาก

7 ข้อดีของผนังกระจก

1) เรียบหรู ดูดี modern style
ด้วยธรรมชาติของ กระจก ที่มีความมันวาวและใส เมื่อโค้ทสีไว้ด้านหลัง จะให้ความรู้สึกมีมิติ ดูดีแฝงความโมเดิร์นแต่เรียบหรู ดูแล้วมีรสนิยมดี๊ดีเลยหละ นอกจากกระจกเคลือบสีแล้ว เราขอแนะนำ กระจกเงาติดผนัง เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น หากสนใจเรามีเคล็ดลับ แนะนำในการตกแต่งห้อง ด้วยกระจกเงา คลิกที่นี่

2) ทำความสะอาดได้ง่ายและรวดเร็ว
เพราะกระจกมีผิวลื่น จึงทำความสะอาดได้ง่ายมากๆ (กระจกโค้ทสีด้านหลังภายนอกก็คือผิวกระจกธรรมดานั่นแหละ) ถ้ากระจกเลอะ เราก็แค่เช็ด ก็จะดูเหมือนใหม่เช่นเดิมแล้ว

3) ทนความร้อนได้
หลายๆคนอาจคิดว่าถ้าเอากระจกมาใช้เป็น ผนังครัวเมื่อโดนความร้อนจะเสี่ยงแตกมั้ย จริงๆแล้วกรณีนี้เราสามารถใช้กระจกนิรภัย (Tempered Glass) ซึ่งกระจกจะผ่านกระบวนการพิเศษ ที่ทำให้กระจกทนความร้อนได้สูงถึง 290 องศาเซลเซียล จึงสามารถนำมาใช้เป็นผนังครัว ที่มีเตาความร้อนอยู่ใกล้ๆได้ แต่ถึงจะใช้กระจกเทมเปอร์แล้วก็ไม่สามารถให้กระจกสัมผัสเปลวไฟโดยตรงได้นะ ควรอยู่ห่างซัก 10 เซ็นติเมตร

4) ทนแรงกระแทกได้
หลายๆคนคิดว่าเอากระจกธรรมดาที่ไม่ได้เทมเปอร์มาติดผนัง กระจกจะแตกง่ายหรือเปล่า? จริงๆแล้วกระจกที่เอามากรุผนังจะมีความแข็งแรงกว่ากระจกที่ติดตั้ง เป็นบานประตูหน้าต่างอีกมากพอสมควรเลย เพราะมีผนังช่วยรับแรงกระแทกจากกระจกไปพอสมควร แต่ถ้ายังไม่มั่นใจ เราขอแนะนำให้ใช้เป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์ (Tempered glass) ไปเลย! เพราะกระจกจะมีความแข็งแรงกว่ากระจกธรรมดาถึง 4-5 เท่า ขอบอกเลยว่าถ้าใช้กระจกผนังเป็นเทมเปอร์แล้ว กระจกจะแตกยากมาก

5) เลือกสีสันสดใสได้หลากหลายกว่า 60 สี
แน่นอนว่าทุกวันนี้ เรื่องดีไซน์เป็นเรื่องสำคัญ ด้วยสีมาตรฐานที่มีให้เลือกกว่า 60 สี ทำให้เราเลือกสีที่ต้องการให้เข้ากับดีไซน์การตกแต่งของเราได้ดั่งใจเลย นอกจากนั้น สีพ่นกระจกยังสามารถผลิตเฉดสีสดๆและให้ความสดในแบบที่กระเบื้องหรือหินไม่สามารถทำได้

6) สวย ลงตัวในทุกพื้นที่
เพราะเราสามารถกำหนดขนาดกระจกให้พอดีกับพื้นที่ที่ต้องการ และยังสามารถเว้นช่องบากปลั๊กไฟ สวิทซ์ไฟ หรือเจาะรูแขวนอุปกรณ์ต่างๆได้ตามระยะที่กำหนดได้เอง ทำให้กระจกสวย ลงตัวเข้ากับพื้นที่ติดตั้งและยังมีรอยต่อน้อยถึงน้อยมากอีกด้วย

7) สะดวกกว่าเพราะติดทับผนังเดิมได้เลย
เราอาจจะมีผนังเดิมเป็นวัสดุอื่นอยู่แล้ว แต่เปลี่ยนใจอยากหันมาใช้กระจกเคลือบสีติดผนัง ขอบอกว่างานนี้ง่ายมาก เพราะขอให้ผนังเดิมมีความแข็งแรงพอรับน้ำหนักกระจก เราสามารถสั่งกระจกมาปิดทับได้เลย ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้อง หิน ปูน แต่ถ้าเป็นปูนทาสีที่หลุดลอกเราไม่แนะนำ