การซื้อทาวน์โฮม ควรพิจารณาอะไรก่อนมาดูกัน

การซื้อทาวน์โฮม ควรพิจารณาอะไรก่อนมาดูกัน ทาวน์โฮมหรือทาวน์เฮ้าส์เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบราคาไม่แพง (มาก) เมื่อเทียบกับบ้านเดี่ยวมีโอกาสเป็นบ้านหลังแรกของมนุษย์เงินเดือนได้เลย โดยส่วนใหญ่ราคาทาวน์โฮมมักจะอยู่ที่ประมาณ 1.5-2.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณสำหรับกลุ่มเริ่มต้นทำงาน ซื้อเป็นบ้านหลังแรกพอจะจับต้องได้phuket property
สำหรับทาวน์โฮมตามกฎหมายจะพัฒนาบนที่ดินขนาดเริ่มต้นอยู่ที่ 16 ตารางวา และลักษณะของบ้านทาวน์โฮมจะเป็นบ้านแถวผนังติดกัน ซึ่งหน้าตาของบ้านทาวน์โฮมของแต่ละโครงการก็จะไม่แตกต่างกันมากนักใครที่กำลังจะตัดสินใจซื้อทาวน์โฮมควรพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้ค่ะ เข้าไปดูโครงการก็ถามคำถามพวกนี้กับเจ้าหน้าโครงการได้เลย พูลวิลล่าภูเก็ต
1. หน้ากว้างเท่าไร
เมื่อก่อนทาวน์โฮมส่วนใหญ่จะหน้ากว้าง 4 เมตร สามารถจอดรถได้ 1 คัน แต่ปัจจุบันหลายโครงการปรับแบบใหม่เพื่อให้มี Value มากขึ้น ด้วยการทำหน้ากว้างเพิ่มเป็นประมาณ 5 เมตร บางหลัง 5.7-6 เมตรก็มี เพื่อที่สามารถจอดรถได้ 2 คัน หลายโครงการอาจจะเคลมว่าจอดรถได้ 2 คันก็จริง แต่ขนาดหน้ากว้างกว่าย่อมดีกว่า เพราะมีพื้นที่มากกว่า
2. ความลึกของหน้าบ้านทาวน์โฮม
ตามกฎหมายจะต้องลึกอย่างน้อย 3 เมตร ซึ่งพอที่จะจอดรถเก๋งเล็กได้ ซึ่งความลึกของหน้าบ้านหรือที่จอดรถมีความสำคัญพอๆ กับความกว้างของหน้าบ้าน เพราะความลึกของหน้าบ้านจะเป็นตัวบอกว่าเจ้าของบ้านสามารถจอดรถได้กี่คันด้วย บางโครงการเคลมว่าจอดได้ 2 คันจริง จอดได้ 2 คันก็จริง แต่แทบจะเปิดประตูเข้าบ้านไม่ได้ เช่น ใครที่ใช้รถกระบะซึ่งมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 5 เมตร ถ้าเราจะเลือกซื้อทาวน์โฮม และสามารถจอดรถกระบะหน้าบ้านได้ ที่จอดรถต้องลึกอย่างน้อย 5.5 เมตร
3. ความลึกของหลังบ้าน
ตามกฎหมายต้องลึกอยู่ที่ 2 เมตร แต่ถ้าโครงการไหนให้มากกว่า 2 เมตรก็แสดงว่าคนซื้อได้กำไร เพราะได้พื้นที่ดินมากกว่า (แต่ก็ต้องดูเปรียบเทียบราคาขายกับโครงการอื่นด้วย)
4. เสาเข็ม
เรื่องนี้ก็สำคัญ เพราะว่าบางโครงการจะลงเสาเข็มเฉพาะตัวบ้าน หน้าบ้านบริเวณที่จอดรถ และหลังบ้านไม่ได้ลงไว้ให้ ในอนาคตถ้าอยู่ไปนานๆ อาจจะเจอปัญหาบ้านทรุดตามมา ฉะนั้นเวลาไปดูทาวน์โฮมควรถามเรื่องการลงเสาเข็มหน้าบ้านและหลังบ้านด้วยเสมอ
5. ระบบก่อสร้าง
ส่วนใหญ่ทุกวันนี้งานก่อสร้างทาวน์โฮมหลายๆ โครงการใช้ระบบการก่อสร้างสำเร็จรูป ใช้ผนังสำเร็จรูปหรือระบบก่อสร้างแบบพรีแคส เนื่องจากมีความแข็งแรง ก่อสร้างได้เร็ว แต่ข้อด้อยของบ้านที่ก่อสร้างระบบสำเร็จรูปนี้ คือทุบ เจาะต่อเติมไม่ได้ ฉะนั้นถ้าใครมองเรื่องการต่อเติม เจาะ ทุบหลังจากซื้อไปก็ต้องถามโครงการก่อนนิดนึง
6. เพดานสูง
ความสูงของเพดานก็สำคัญ ตามมาตรฐานเพดานบ้านทาวน์โฮมจะสูงอยู่ที่ 2.6 เมตร แต่ถ้าโครงการไหนให้เพดานสูง 2.7-3 เมตร นั่นแสดงว่าให้มากกว่าโครงการอื่นๆ จุดเด่นของเพดานสูงคือบ้านจะโปร่งโล่งมากขึ้น และในความคุ้มค่าลูกค้าได้พื้นที่ใช้สอยในแนวตั้งเพิ่มขึ้นด้วย (บิวท์อินตู้ได้สูงขึ้น) พูลวิลล่าภูเก็ต
7. ฟังก์ชั่นห้องน้ำ
ส่วนใหญ่ทาวน์โฮม 2 ชั้น จะออกแบบให้มีห้องน้ำ 2 ห้อง คือที่ชั้น 1 และชั้น 2 อย่างละห้อง แต่สำหรับห้องน้ำชั้น 1 บางโครงการจะไม่ได้ทำที่อาบน้ำมาให้ หรือห้องน้ำเล็กเกินไป ฉะนั้นถ้าบ้านไหนสมาชิกเยอะ ห้องน้ำชั้น 1 อาบน้ำได้ก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญนี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการเลือกซื้อทาวน์โฮมค่ะ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาอีกเยอะสำหรับใครที่กำลังจะตัดสินใจซื้อโครงการไหน อย่าลืมเพิ่มรายละเอียดทั้ง 7 ข้อที่ว่ามานี้เข้าไปด้วยนะคะ ช่วยประกอบการตัดสินใจได้ไม่มากก็น้อยค่ะ
ประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนซื้อทาวน์โฮมในฝันนั้น มีดังนี้

ทาวน์โฮม กับ ทาวน์เฮ้าส์ ไม่เหมือนกัน
แม้จะไม่ได้มีคำจำกัดความที่ชัดเจนมากนัก แต่ทาวน์โฮมกับทาวน์เฮ้าส์ก็มีความแตกต่างกัน คือ ทาวน์โฮมจะเป็นโครงการบ้านในลักษณะของห้องแถว ที่ไม่ใช่บ้านเดี่ยว ที่มีขนาดใหญ่กว่าทาวน์เฮ้าส์ มีพื้นที่ส่วนกลาง อำนวยความสะดวก และเป็นระบบมากกว่า รวมถึงขนาดพื้นที่ใช้สอยในบ้านก็จะมีมากกว่าด้วย ดังนั้น ในการจะเลือกพิจารณาซื้อทาวน์โฮม จึงต้องมองภาพรวมของโครงการให้ดีว่า เหมาะสมกับการเป็นทาวน์โฮม ไม่ใช่ทาวน์เฮ้าส์ พูลวิลล่าภูเก็ต เพราะราคาที่ต้องจ่ายเพื่อครอบครองทาวน์โฮมนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะสูงกว่าทาวน์เฮ้าส์อยู่พอสมควร
จะใช้อยู่อาศัยหรือใช้เป็นออฟฟิศทำงาน
ฟังก์ชั่นการใช้งานของทาวน์โฮมในปัจจุบันนั้น ไม่ใช่เพียงแค่เพื่ออยู่อาศัยอย่างเดียว แต่ยังได้รับการดีไซน์ให้สามารถใช้เป็นออฟฟิศ สำนักงานได้ด้วย หรือที่เราคุ้นเคยเรียกกันติดปากว่า “โฮมออฟฟิศ” ซึ่งหากเป้าหมายในการซื้อทาวน์โฮมของเรามีแผนที่จะต่อยอดให้กลายเป็นที่ทำงานขนาดเล็ก มีพนักงานประมาณ 5-10 คน หรือเป็นการทำธุรกิจกันเองภายในครอบครัวแล้วล่ะก็ เราควรเลือกทาวน์โฮมที่ตอบโจทย์ฟังก์ชั่นของการทำงานตั้งแต่แรก ไม่ใช่เลือกรูปแบบที่เหมาะกับการอยู่อาศัย เพราะเมื่อคิดอยากจะใช้งานในเชิงออฟฟิศขึ้นมา จะต้องมาเสียเวลาขยับขยาย ซึ่งมีความลำบาก และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงตกเติมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากเราเลือกซื้อทาวน์โฮมในฟังก์ชั่นโฮมออฟฟิศตั้งแต่แรกนั้น จะมีราคาประหยัดกว่ามากวิลล่าภูเก็ตที่ขาย
พื้นที่หน้าบ้านทาวน์โฮมกว้างลึกเพียงพอหรือไม่
เพราะบ้านอาจไม่ได้ติดรถไฟฟ้าแบบคอนโด ดังนั้น พื้นที่ใช้สอยบริเวณหน้าบ้านสำหรับจอดรถ จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่ควรต้องพิจารณาให้ดี โดยหน้ากว้างส่วนใหญ่จะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 4 เมตร แต่คำแนะนำคือควรมีพื้นที่มากกว่า 5 เมตรขึ้นไป เพราะยิ่งกว้างเท่าไรก็ยิ่งจอดรถได้มากขึ้น และเวลาที่ไม่มีรถจอด ก็ยังใช้เป็นพื้นที่ทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ด้วย ทั้งนี้ นอกจากหน้ากว้างจะสำคัญแล้ว ความลึกของหน้าบ้านก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะหน้าบ้านกว้างไปก็จอดรถได้ไม่เต็มคันถ้ามีความลึกไม่พอ โดยกฎหมายกำหนดให้ความลึกขั้นต่ำอยู่ที่ 3 เมตร แต่ความลึกเท่านี้เหมาะจอดได้เพียงแค่รถยนต์ขนาดเล็กเท่านั้น ซึ่งหากครอบครัวเราเดินทางด้วยรถกระบะ หรือรถขนาดใหญ่ ก็จำเป็นต้องเลือกพื้นที่หน้าบ้านในโครงการทาวน์โฮมที่มีขนาดความลึกประมาณ 5 – 5.5 เมตรขึ้นไป

วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างมีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน
ในปัจจุบันมีโครงการทาวน์โฮมเกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งบางแห่งนั้นสร้างเสร็จอย่างรวดเร็ว ด้วยเพราะใช้วัสดุแบบสำเร็จรูป แต่บางโครงการก็เป็นรูปแบบของการก่ออิฐฉาบปูน โดยแม้การใช้ระบบก่อสร้างแบบผนังสำเร็จรูปจะมีความแข็งแรง แต่ก็ต้องตรวจสอบให้ดี เพราะคุณภาพของวัสดุมีความต่างกัน อาจก่อให้เกิดปัญหาภายหลังได้ รวมถึงบ้านที่ใช้ระบบสำเร็จรูปนั้น ยังไม่สามารถตกแต่งต่อเติมได้มากนัก มีข้อจำกัดที่มากกว่าบ้านที่สร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องถามตัวเองให้ดีว่า ต้องการบ้านแบบใดเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของเรามากที่สุด พูลวิลล่าภูเก็ต
มีพื้นที่ส่วนกลาง สาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกเหมาะสม
ด้วยเพราะความแตกต่างของทาวน์โฮมกับทาวน์เฮ้าส์อยู่ที่พื้นที่ส่วนกลาง ดังนั้น ในการพิจารณาเลือกซื้อทาวน์โฮมจึงต้องใส่ใจในส่วนนี้อย่างพิถีพิถัน ต้องสอบถามทางโครงการให้รอบคอบว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกใดให้บ้าง อาทิ สวนสาธารณะ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส รวมถึงระบบการรักษาความปลอดภัย ระบบการสื่อสาร น้ำ ไฟ ระบบการทำความสะอาด จัดเก็บขยะ ฯลฯ ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางและสารธารณูปโภคทั้งหมด ต้องมีขนาดและปริมาณที่สามารถรองรับการใช้งานของคนในโครงการได้อย่างเพียงพอด้วย รวมถึงยังต้องพิจารณาเรื่อง “ค่าส่วนกลาง” ด้วยว่าเหมาะสมกับสิ่งที่ได้รับหรือไม่
ทำเลที่ตั้งเหมาะสมตอบโจทย์การใช้ชีวิต
แม้จะไม่จำเป็นต้องใกล้รถไฟฟ้า เพราะคนซื้อบ้านส่วนใหญ่จะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเลือกซื้อทาวน์โฮมที่ถูกใจที่ไหนก็ได้ เพราะสุดท้ายแล้ว ถ้าบ้านซึ่งอยู่กันเป็นครอบครัวนั้น อยู่ไกลโรงพยาบาล ไม่อยู่ใกล้ทางด่วน ไม่ติดถนนใหญ่ อยู่ไกลจากออฟฟิศ และ โรงเรียน ฯลฯ ต่อให้เป็นบ้านที่ใหญ่แค่ไหน สวยงามแค่ไหน ก็ไม่สามารถตอบโจทย์ชีวิตให้มีความสุขได้อย่างแท้จริง รวมถึงแหล่งชุมชนแวดล้อม ก็ต้องเลือกทำเลที่มีความพร้อมมากพอ มีแหล่งช้อปปิ้ง มีตลาด ให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย สามารถหาของกินของใช้ได้อย่างไม่ลำบากด้วย