บ้านโมเดิร์นเล็กๆ เรียบแม้กระนั้นเด่น ล้ำยุคไม่มีระยะเวลา
บ้านโมเดิร์นเล็กๆ เรียบแม้กระนั้นเด่น ล้ำยุคไม่มีระยะเวลา บ้านในฝันสำหรับคนเรียบง่ายชอบยึดหลักแนวทางแบบ ‘Less is more’ ในสไตล์โมเดิร์น ที่เน้นย้ำวางแบบทรงขวานผ่าซาก ไม่มีเนื้อหาที่ทำให้มองเกลื่อนกลาดตา หลังคาแบน (Flat Slab) สีกลางแล้วก็อุปกรณ์หลักไม่กี่จำพวก เป็นต้นว่า เหล็ก, ฝาผนังติดกระจกที่มีความสูงจากพื้นถึงเพดาน เสมือนเป็นการเผยตัวตันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆผ่านประตูหน้าต่างแล้วก็ฝาผนังโปร่งใส ส่วนประกอบทุกสิ่งทุกอย่างมองน้อยกลับรู้สึกถึงความสมดุล แบบอย่างบ้านแบบน้อยแต่ว่ามากมายที่เห็นได้ชัดจากเป็นโปรเจ็คบ้านในตอนกึ่งกลางศตวรรษ Farnsworth House ผลงานการออกแบบของนักออกแบบ Mies van der Rohe เป็นงานที่สร้างหลายสิบปีแม้กระนั้นตัวบ้านยังมองล้ำยุคไม่มีระยะเวลาบ้านสวยๆหรูๆ
Farnsworth House ยังคงยอดเยี่ยมในแผนการที่ได้รับการเชิดชู รวมทั้งมีชื่อเสียงเยอะที่สุดของนักออกแบบ Ludwig Mies van der Rohe ด้วยการเช็ดกบันทึกรูปภาพที่เอามาจากช่างถ่ายรูปสถาปัตยกรรมมานับครั้งไม่ถ้วนในประวัติศาสตร์ กว่า 68 ปีตั้งแต่สร้างเสร็จ ด้วยรูปลักษณ์ตึกที่มองถ่อมตน โปร่งใส กลืนอยู่กับภูมิทัศน์ที่สมบูรณ์บริบูรณ์ด้วยต้นไม้ สร้างขอบเขตทางธรรมชาติรอบบ้านทรงหน้ากระดานเรียงยาวที่ยกสูงจากพื้นนิดหน่อย ในฤดูใบไม้ผลิที่ใบเปลี่ยนสี ยิ่งทำให้รอบๆนี้รวมทั้งบ้านงามเปรียบเสมือนภาพวาดที่อดจะกดชัตเตอร์เก็บความจับใจเอาไว้มิได้
ตัวบ้านมีเสาทั้งสิ้น 8 ต้น รวมกับระเบียงข้างนอกแล้วเป็น 12 ต้น ยกสูงจากระดับดินเดิม 1.60 เมตร เพื่อจัดการกับปัญหาอุทกภัยจากแม่น้ำ แม้กระนั้นคนเขียนแบบเพิ่มเนื้อหาให้มีการยกฐานะประจำถิ่นออกเป็นสองระดับ เป็นส่วนของห้อง รวมทั้งเฉลียงภายนอก เพื่อเป็นการลดระดับไปสู่ระเบียงก่อนถึงพื้น และไม่เป็นการทำให้ทางขึ้นมองสูงจนถึงเหลือเกิน
แนวความคิดหลักของสถาปัตยกรรมโมเดิร์น
หมายถึงการออกแบบโดยคิดถึงประโยชน์สูงสุด งานออกแบบก็เลยย้ำความความง่ายๆ ผ่านรูปลักษณ์ของสถาปัตยกรรมโมเดิร์นเส้นตรงเรียบนิ่ง การตกแต่งที่ไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่แย่งความเด่นจากบริบทห้อมล้อม แต่มีคุณค่าแล้วก็คุ้มในทุกด้าน บ้านนี้ก็ยึดหลักการดังกล่าวข้างต้นด้วยเหมือนกัน โดยพวกเราจะมองเห็นรูปแบบของสถาปัตยกรรมที่สำคัญ ได้แก่ ตัวบ้านมีลักษณะค่อยยกพื้นสูงลอยตัว มีหลังคาแบบ Flat roof สามารถใช้งานเป็น roof garden ได้ การจัดแบบแปลนด้านในพื้นที่ใช้สอยแบบอิสระ (free plan) ทำให้มีเสปซกว้างเวิ้งๆที่ลื่นไหลยืดหยุ่นใช้งานง่าย และก็มีฟังก์ชันขยายตัวบ้านออกมาเป็นระเบียงที่มีด้านนอกด้านในต่อเนื่องกัน ฝาผนังข้างนอกไม่จำเป็นที่ต้องรับน้ำหนักก็เลยเปิดออกได้กว้างขึ้นแปลนบ้านจัดสรร
บ้านโมเดิร์นไม่ต้องคิดสลับซับซ้อน แม้ปรารถนาแสงสว่างธรรมชาติรอบๆไหนก็ใส่ช่องแสงสว่างเข้าไปในจุดนั้น ถ้าหากบริบทรายล้อมงดงามก็ไม่มีความจำเป็นต้องปิดบ้านเอาไว้ให้เสียของ ฟาร์นสเวิร์ทเฮาส์ก็เลยดีไซน์ช่องเปิด (ประตู,หน้าต่าง) เป็นสิ่งของกระจกใสสูงจากพื้นถึงเพดาน เพื่อเปิดรับวิสัยทัศน์นธรรมชาติรอบทิศทั่วบ้าน แล้วก็ทำให้เกิดความรู้สึกว่าขอบเขตของบ้านหายไป ข้างนอกกับด้านในราวกับเป็นหลักที่เดียวกัน เมื่อคิดว่าแสงสว่างมากเกินไปหรือปรารถนาความเป็นส่วนตัวก็เพียงแค่เลื่อนผ้าม่านมาปิด ชีวิตก็ดำเนินต่อได้แบบไม่มีสะดุดฟ้าพรวมของบ้านมีเพียงแค่แผ่นคอนกรีตวางให้ขนานกันสองปผ่นบน-ด้านล่าง มีเสาสีขาวกั้นรับน้ำหนักเป็นระยะ ด้านที่ปรารถนาพื้นที่นั่งพักผ่อนก็เพิ่มเติมเฉลียงยื่นออกมา ลืมความทึบของฝาผนังก่ออิฐฉาบเรียบและก็เนื้อหางอนงามของงานปูนปั้น ขนคิ้ว บัว ไปได้เลยtownhouse
บ้านสไตล์โมเดิร์น สะดุดตาด้วยรูปลักษณ์ที่เรียบง่าย เน้นย้ำสเปซกว้างๆที่ใช้งานได้ลื่นไหล ใช้งานได้จริง รวมทั้งเหมาะสมกับสรีระของผู้อาศัย ดูอย่างกับว่ามีจุดเด่นมาก แม้กระนั้นก็ยังมีข้อเสียอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการตัดทอนเนื้อหาที่อาจส่งผลให้กำเนิดความติดขัด เกิดอุบัติเหตุได้ในบางจุด ยกตัวอย่างเช่น การไม่ใส่ราวจับบันได หรือการใช้ฝาผนังกระจกเป็นรอบๆกว้างจะไม่เหมาะสมกับบ้านในเขตร้อน รวมทั้งยังมีผลให้บ้านรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว ก่อนนำบ้านลักษณะนี้มาใช้งานก็เลยจำเป็นต้องศึกษาเล่าเรียนบริบทโอบล้อม แนวทางแสงสว่าง ลม แล้วก็ลักษณะอากาศในเขตแดนให้ดีก่อน
ชูวิถีฟาร์ม มารวมไว้ภายในบ้านโมเดิร์นอย่างพอดี
บ้านสีดำฝาผนังกระจกใสถึงแม้พวกเราจะรู้ดีว่า บ้านควรจะสโมสรกับกับถนนหนทาง ทิวทัศน์ ลม รวมทั้งแดดยังไง แต่ว่าไม่ใช่บ้านทุกข้างหลังที่จะสามารถจัดอยู่ในหนทางที่สมควรได้เสมอ เพราะว่าแต่ละไซต์ก็มีลักษณะเฉพาะและก็ความจำกัด ก็เลยต้องกำหนดการการอคอยอกแบบเฉพาะสถานที่ อย่างกรณีนี้ไซต์ยาวรวมทั้งแคบ ในด้านยาวสองด้านของบ้านอยู่ใกล้กับเพื่อนบ้านที่สูงขึ้น ด้วยเหตุดังกล่าวก็เลยมีมุมมองที่จำกัดแล้วก็บังแนวทางการรับแสงสว่างจากแสงตะวันตลอดแนวพื้นที่โดยมาก เนื้อหาพวกนี้เปลี่ยนเป็นโปรเจ็กต์นี้เป็นสิ่งพิสูจน์ถึงชุดของการจัดการพื้นที่ เพื่อดึงความสามารถที่หลบอยู่จากที่พักแบบแคลิฟอร์เนียที่มีอยู่ใน Mount Victoria ออกมาเป็นบ้านที่ปลดล็อคการใช้พื้นที่ทั้งปวงแปลนบ้านจัดสรร เปลี่ยนเป็นบ้านที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ชาวเมืองที่ตอบทุกปัญหา
ตึกสีดำโปร่งค่อยด้วยช่องว่างรวมทั้งกระจกนี้เป็นโครงงานเพิ่มเติมบ้านพื้นที่ 135 ตารางเมตร ไซต์ตั้งอยู่ทางภาคเหนือสุดของเทือกเขาวิกตอเรีย จุดแข็งคือสามารถเห็นทัศนวิสัยของเมืองแล้วก็ท่าเรือได้ด้วย การจะปิดบ้านให้ทึบดูเหมือนทำให้บ้านเสียคุณประโยชน์ โดยเฉพาะทางทิศเหนือรวมทั้งทิศตะวันตกที่มีความจำเป็นทางสายตา แต่ว่าข้อจกัดที่เพื่อนบ้านประกบทั้งสองข้าง คนเขียนแบบก็เลยเลือกจัดพื้นที่เฉียงนั่งพักผ่อนโปร่งๆรวมทั้งห้องนอนที่เต็มไปด้วยกระจกไว้ในด้านที่จัดสวนรับทิวทัศน์เมือง ได้กระแสลมและก็แสงสว่าง ส่วนอีกด้านของบ้านที่อยู่สูงยิ่งกว่าจะใส่ช่องเปิดใต้หลังคาให้พอดิบพอดีกับทิวทัศน์ท่าเรือพูลวิลล่า ภูเก็ต
จุดมุ่งหมายของการผลิตบ้านนี้
เป็นปรารถนาพื้นที่ที่สอดคล้องกับครอบครัว งานการ แล้วก็ชีวิตทางด้านสังคม ก็เลยเพิ่มเติมครัวข้างหลังเป็นแบบเปิด เชื่อมต่อห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร และก็เฉียงข้างหลังบ้านได้หมด ข้างบนใหม่พร้อมห้องนอน 2 ห้องและก็ห้องสุขา จะมีความคิดเห็นว่าแบบแปลนใหม่สร้างพื้นที่ใช้สอยที่เปิดจากข้างหน้าไปข้างหลัง และไม่มีฝาผนังแบ่งกันระหว่างฟังก์ชัน ทำให้การใช้แรงงานสบายและก็ลื่นไหลทั้งผองห้องครัวราวกับหัวใจของบ้านซึ่งอยู่ลึกเข้าไไปภายใน ด้วยความจำกัดที่ฝาผนังบ้านเปิดข้างๆห้องครัวมิได้ ทำให้แสงสว่างธรรมชาติส่องเข้ามาไม่ถึง คนเขียนแบบทำขจัดปัญหาโดยการเจาะช่องแสงสว่าง Skylight จากข้างบน เพียงเท่านี้ความมืดดำก็หายไปจากห้องครัวได้ในทันทีทันใดบ้าน นอร์ดิก
การผลิตความต่อเชื่อมของพื้นที่ เพื่อกำเนิดความโปร่งสบายโล่งเตียน โดนแสงธรรมชาติ การถ่ายเทอากาศที่ดี ไปจนกระทั่งการเชื่อมต่อมุมมองมีให้มองเห็นในทุกจุด ไม่เว้นแม้กระทั้งฝาผนังกันบันไดก็มิได้ก่อเต็มพื้นที่สูงติดเพดานข้างบน ช่องว่างต้นแบบต่างๆนี้ ทำให้มีพื้นที่แลเห็นกันได้ ผู้กระทำระจายลมแล้วก็แสงสว่างง่ายดายมากยิ่งขึ้นด้วยเหมือนกันช่องแสงสว่าง Skylight มิได้มีในจุดเดียวเหนือดถงบันไดก้มีเช่นเดียวกัน ช่วยกระจายแสงจากมุมบนหลังคาลงมาเพิ่มความสว่าง เพิ่มเติมความปลอดภัยในเมื่อใดก็ตามเดินขึ้น-ลง อีกทั้งในตอนกลางวันแล้วก็เวลากลางคืนในอีกด้านหนึ่งของบ้านมีคอลเลกชั่นของหอพักเริ่มแรก ซึ่งมีลักษณะเป็นบ้านตากอากาศสไตล์แคลิฟอร์เนียหลังคาจั่วทับกัน 3 ระดับ ความพิเศษของโซนนี้เป็น การจัดจังหวะช่องแสงสว่างใต้หลังคาในส่วนจั่วที่สูงที่สุดเป็นแถวยาว เปิดวิสัยทัศน์ของบ้านออกไปรับทิวทัศน์ท่าเรือ สมุทร รวมทั้งเมืองที่อยู่ไกลออกไปได้เต็มพิกัด
บ้านที่มีพื้นที่เพื่อนบ้านประชิดทั้งสองข้าง จะมีปัญหาที่คล้ายคลึงกันเป็น ไม่อาจจะเปิดโอกาสแสงสว่างช่องลมข้างๆได้เต็มกำลัง ทำให้บ้านมืดแล้วก็ถูกกันขวางแนวทางลม (รวมทั้งทิวทัศน์ด้วยในบางครั้งบางคราว) คนเขียนแบบจะใช้กระบวนการทำฝาผนังกระจก รวมทั้งเลือกบานประตูแบบกระจกที่เปิดได้ให้กว้างขึ้นในด้านที่เปิดได้ ส่วนด้านในภายใช้แบบแปลนแบบเปิด ไม่มีฝาผนังกันระหว่างฟังก์ชันที่ใช้ด้วยกันได้ ทำให้เดินทางสบาย ช่องว่างยังเป็นเหตุให้แสงสว่างและก็ลมเดินทางได้ดิบได้ดี ดังนี้การใส่ช่องแสงสว่าง skylight ก็ช่วยกำจัดความจำกัดเรื่องแสงสว่างไปได้มาก แม้กระนั้นจำต้องเลือกอุปกรณ์ที่มีคุณลักษณะให้แสงสว่างผ่านได้โดยไม่ทำให้บ้านร้อนแปลนบ้านจัดสรร