ต้นไม้ประดับหน้าบ้าน
ต้นไม้ประดับหน้าบ้าน เคล็ดลับการเติมสีสันให้พื้นที่หน้าบ้าน น่ามองยิ่งขึ้น !เพราะการปลูกต้นไม้ย่อมเป็นอีกวิธีหนึ่งในการสร้างอากาศบริสุทธิ์ให้กับพื้นที่นั้นๆ รวมทั้งช่วยสร้างสีสันให้พื้นที่แต่ละพื้นที่น่ามองมากยิ่งขึ้นได้ด้วยเช่นกัน มีใครกำลังมองหาต้นไม้ที่เหมาะกับการปลูกไว้ในพื้นที่หน้าบ้านกันอยู่บ้างไหมคะ เพราะวันนี้เราจะมาพูดถึง 8 ต้นไม้ประดับหน้าบ้าน เคล็ดลับการเติมสีสันให้พื้นที่หน้าบ้าน น่ามองยิ่งขึ้น ! ซึ่งเราได้รวบรวมต้นไม้แต่ละชนิด ที่ควรปลูกไว้หน้าบ้านมาฝาก รวมไปถึงวิธีการดูแลแบบง่ายๆ ที่เชื่อว่าใครๆก็สามารถทำได้ และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปทำความรู้จักพร้อมๆกันเลยดีกว่าค่ะ
1. ต้นบานไม่รู้โรย
มาเริ่มต้นกันกับต้นไม้ที่อยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ ที่ใครๆก็มักจะเรียกกันว่า ต้นบานไม่รู้โรย สำหรับต้นไม้ชนิดนี้มีประโยชน์ในการใช้สอยมากมาย เป็นไม้พุ่มมีลำต้นขนาดเล็กมีดอกทั้งสีขาวและสีม่วง เรามักจะเห็นกันในวันสำคัญต่างๆที่มักจะนำดอกไม้นี้ไปจัดใส่พานยกตัวอย่างเช่น วันไหว้ครู
อีกทั้งยังมีความเชื่อกันว่าหากบ้านใดได้ปลูกต้นไม้นี้ไว้หน้าบ้านก็จะช่วยส่งเสริมให้มีแต่ผู้รักใคร่ และผู้อยู่อาศัยที่เป็นคู่รักก็จะผูกพันกันอย่างมั่นคงและมีความซื่อสัตย์ต่อกัน อีกทั้งยังเป็นต้นไม้ที่เลี้ยงง่ายทนต่อสภาพอากาศได้ดี มีถิ่นกำเนิดทางฝั่งประเทศออสเตรเลียและยุโรป เป็นพืชที่เหมาะกับการปลูกในที่ที่มีแสงแดดจัด การดูแลเพียงรดน้ำทุกวันหรืออาจเติมปุ๋ยคอกบ้างก็ได้ เพื่อการเจริญเติบโต รวมไปถึงการออกดอกได้อย่างสมบูรณ์และสวยงาม
2. ต้นพุด
มาต่อกันกับอีกหนึ่งต้นไม้ที่คนไทยมักนิยมปลูกกันไว้หน้าบ้านเพื่อเสริมสิริมงคล ซึ่งมีชื่อว่า ต้นพุด ซึ่งมีความเชื่อกันว่าหากใครได้ปลูกต้นไม้นี้ประดับไว้หน้าบ้าน ก็จะยิ่งส่งเสริมให้การงานมีความเจริญก้าวหน้า อีกทั้งยังช่วยทำให้สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ และครอบครัวจะอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข และหากปลูกในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ก็จะยิ่งช่วยส่งเสริมสิริมงคลได้ดี ซึ่งคำว่าพุดนั้นแปลว่าแข็งแรงและอุดมสมบูรณ์
มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Gardenia jasminoides สำหรับต้นพุดนี้มีลักษณะเป็นต้นไม้พุ่มยืนต้น ที่มีขนาดค่อนข้างเล็กและเป็นพุ่มเตี้ย มีลำต้นสูงไม่เกิน 3 เมตร หากออกดอกก็จะมีดอกเป็นสีขาวดอกจะมีลักษณะเป็นดอกเดียวซึ่งจะออกตามช่อจากปลายยอด เหมาะกับการปลูกเอาไว้กลางแจ้ง โดยส่วนใหญ่มักนิยมนำมาปลูกประดับเป็นรั้วบ้าน
3. ต้นชบา
มาต่อกันกับอีกหนึ่งต้นไม้ที่มีดอกสวยงาม ซึ่งถือเป็นการเติมสีสันให้กับหน้าบ้านของคุณได้เป็นอย่างดี ที่มีชื่อว่า ต้นชบา สำหรับต้นไม้ชนิดนี้มีความเชื่อกันมาว่า จะช่วยส่งเสริมให้ผู้ปลูกมีความเจริญก้าวหน้าในด้านการงาน อีกทั้งยังไร้ซึ่งปัญหาและอุปสรรค ซึ่งเป็นอีกหนึ่งต้นไม้ที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างช้านาน มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Hibiscus rosa sinensis.
สำหรับต้นชบานี้ถือเป็น “ราชินีแห่งดอกไม้เมืองร้อน” อีกทั้งยังเป็นดอกไม้ ประจำชาติของประเทศ มาเลเซียและประเทศจาไมก้า รวมไปถึงผู้คนแห่งรัฐฮาวายก็นิยมนำมา ทัดหูประดับผม และถึงแม้จะมีบางความเชื่อในด้านลบมาตั้งแต่สมัยอดีต ก็ไม่ได้ทำให้ความ นิยมในการปลูกต้นไม้ ชนิดนี้ลดน้อยลงแต่อย่างใด อีกทั้งผู้คนยังคงนิยมนำมาปลูกประดับเป็นรั้วบ้านกันอย่างมากมาย รวมทั้งตามรีสอร์ทและโรงแรมต่างๆมักจะนำมาปลูกประดับไว้ในสวนเพื่อเติมสีสันให้สวนน่ามองมากยิ่งขึ้น
4. ต้นนางกวัก
มาต่อกันกับต้นไม้ที่มีความเชื่อว่าช่วยกวักเงินกว่าทองเข้าบ้าน ซึ่งก็คือ ต้นนางกวัก สำหรับต้นไม้ชนิดนี้มักนิยมปลูกกันไว้ที่หน้าบ้านโดยเฉพาะผู้ที่ทำกิจการและค้าขาย เพราะมีความเชื่อกันว่าหากใครได้ปลูกต้นไม้ชนิดนี้ ก็จะยิ่งช่วยส่งเสริมโชคลาภและนำพาแต่ความโชคดีมาให้ จะมีกำไรเป็นกอบเป็นกำ จัดสวน
นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ พิเศษในการช่วยดูด สารพิษที่ลอยอยู่ในอากาศอีกทั้งยังช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ได้ สามารถปลูกได้ทั้งบริเวณนอกบ้าน และ ภายในบ้าน การดูแลก็ไม่ยากเพียง รถน้ำให้สม่ำเสมอ เพราะต้นนางกวักนั้นเป็นพืชที่ชอบความชื้นแฉะ หากอยากให้เจริญเติบโต และมีใบที่เขียวสด ก็ควรตั้งไว้ในตำแหน่งที่ให้สามารถรับแสงแดดได้อย่างร่ำไร และหากเจริญเติบโตได้ในระยะหนึ่งแล้วควรใส่ปุ๋ยให้กับเขาบ้าง เพื่อให้ลำต้นมีความแข็งแรงและอุดมสมบูรณ์ และเหมาะกับการปลูกในดินร่วนซุย
5. ต้นนีออน
แม่ต่อกันกับอีกหนึ่งต้นไม้ที่มีความสวยงามมีสีสันที่สดใสซึ่งมีชื่อว่า ต้นนีออน สำหรับต้นไม้ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดมาจากฝั่งประเทศเม็กซิโก และประเทศแถบฝั่งอเมริกาใต้ มีลักษณะเป็นต้นไม้ทรงพุ่มเตี้ยและสูงไม่เกิน 2 เมตร หากออกดอกจะชูช่อเป็นกระจุกทางปลายกิ่งส่วนใหญ่มักจะมีสีม่วงสดหรือสีชมพูอมม่วงซึ่งสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี
ซึ่งมีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Leucophyllum frutescens (Berl.) I.M. เหมาะกับการปลูกประดับเอาไว้ที่บริเวณหน้าบ้านเนื่องจากเป็นต้นไม้ที่ชอบแสงแดดค่อนข้างจัด แต่ก็ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอโดยการรดทั้งเช้าและเย็น อีกทั้งยังสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่มีความร้อนชื้นอย่างประเทศไทยเรา ด้วยลักษณะของดอกที่มีสีสันสดใสและเป็นต้นไม้ที่ปลูกง่าย จึงทำให้ผู้คนในบ้านเรานิยมและหันมาปลูกกันมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน จัดสวน
6. ต้นหลิวไต้หวัน
มาต่อกันกับอีกหนึ่งต้นไม้ที่ถือเป็นไม้มงคล ที่ผู้คนในบ้านเรานิยมปลูกกันไว้หน้าบ้านเป็นอย่างมากซึ่งก็คือ ต้นหลิวไต้หวัน
สำหรับต้นไม้ชนิดนี้มีความเชื่อกันว่าหากใครได้ปลูกประดับเอาไว้ที่บริเวณหน้าบ้าน ก็จะยิ่งช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับผู้อยู่และผู้ปลูกได้ดี อีกทั้งยังนิยมนำมาทำเป็นของขวัญมอบให้แก่กันในวันสำคัญและเทศกาลพิเศษต่างๆ
สำหรับต้นไม้ชนิดนี้มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Cuphea hyssopifolia Kunth จะมีลักษณะเป็นไม้พุ่มที่ค่อนข้างเตี้ยส่วนใหญ่มักจะโตเต็มที่ด้วยความสูงประมาณไม่เกิน 80 เซนติเมตรอีกทั้งยังออกดอกมาตามซอกใบและมีความสวยงามด้วยดอกที่เป็นสีชมพูและสีม่วงอมชมพูบ้างก็มีสีขาวซึ่งสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี จึงเป็นเหตุผลทำให้ผู้คนนิยมปลูกกันเป็นอย่างมาก เหมาะกับการปลูกไว้ในพื้นที่กลางแจ้งเนื่องจากเป็นต้นไม้ที่ชอบแดด แต่ก็ควรปลูกคู่กับต้นไม้ที่มีใบใหญ่เนื่องจากอาศัยร่มของใบไม้ใหญ่นั่นเอง และควรรดน้ำได้ในปริมาณปานกลางไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ดูแลง่ายและโตง่าย
7. ต้นประยงค์แคระ
มาต่อกันกับอีกหนึ่งต้นไม้ที่เป็นพุ่ม ทนแดด และเหมาะกับการปลูกประดับไว้บริเวณหน้าบ้านอย่างยิ่งซึ่งมีชื่อว่า ต้นประยงค์แคระ สำหรับต้นไม้ ชนิดนี้ค่อนข้างได้รับความนิยมกันอยู่ไม่น้อย และ ส่วนใหญ่มักจะนิยมปลูกกันทางทิศเหนือของลมเนื่องจากจะช่วยส่งกลิ่นหอมมา ตามลมได้เป็นอย่างดีตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังมีลำต้นและใบที่ค่อนข้างสวยงามอยู่ไม่น้อยจัดสวน
มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Aglaia odorata Lour. ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยเรานี่เองอีกทั้งยังสามารถพบเห็นได้ตามประเทศเอเชียตะวัน ออกเชียงใต้และมักพบเป็น อย่างมากในป่าเบญจพรรณ สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการตอนกิ่งหรือเพราะเมล็ด ถือเป็นต้นไม้ที่มีความทนทานต่อ สภาพอากาศแล้งได้ดีเลยทีเดียว และเนื่องจากบ้านเรามีอากาศที่ค่อนข้างร้อน จึงทำให้ต้นไม้ชนิดนี้นิยมนำมาปลูกประดับเป็นรั้วบ้านกันมาอย่างช้านาน นอกจากนี้ยังมีประโยชน์โดยการนำมาอบเสื้อผ้า เพราะดอกประยงค์นั้นมีความหอมคล้ายกับกลิ่นดอกมะลิและใบชา
8. ต้นสารภี
มาต่อกันกับอีกหนึ่งต้นไม้ไทยที่ทนต่อแดดได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีชื่อว่า ต้นสารภี ซึ่งมีลักษณะเป็นต้นไม้ทรงพุ่มที่มีความทึบและเหมาะกับการปลูกประดับเอาไว้ที่บริเวณหน้าบ้านเนื่องจากให้ความโรงเรือนกับคนในบ้านได้เป็นอย่างดีอีกทั้งยังมีความเชื่อที่ถูกเล่าต่อๆกันมาว่า หากใครได้ปลูกต้นไม้นี้เอาไว้ในบ้านก็จะช่วยนำพาความสงบสุขมาให้ ทำให้ผู้คนในบ้านมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
หากมีผู้เฒ่าผู้แก่ก็จะช่วยส่งเสริมทำให้มีอายุยืน อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการนำมาทำเป็นยาบำรุงหัวใจ และช่วยทำให้ร่างกายเกิดความเยือกเย็นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ต้นสารภีนี้ถือเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง หากปลูกไว้บริเวณหน้าบ้านก็จะยิ่งช่วยทำให้หน้าบ้านมีความร่มรื่น อีกทั้งยังมีดอกที่สวยงามอีกด้วย จึงทำให้ผู้คนนิยมปลูกต้นไม้นี้เอาไว้หน้าบ้านกันเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามหากคุณอยากให้ต้นไม้ดอกไม้ที่คุณปลุกนั้นมีการเจริญเติบโตได้อย่างแข็งแรงและสมบูรณ์ก็ควรหมั่นรถน้ำใส่ปุ๋ยและพวนดินอยู่เสมอ และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือก่อนที่จะนำต้นไม้แต่ละต้นมาปลูกเอาไว้บริเวณหน้าบ้านนั้นคุณควรศึกษาให้ดีเสียก่อนว่าต้นไม้แต่ละต้นชอบน้ำและแดดมากน้อยเพียงใดทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการเจริญเติบโตของต้นไม้แต่ละต้นนั่นเอง
สำหรับเรื่องราวของ 8 ต้นไม้ประดับหน้าบ้าน เคล็ดลับการเติมสีสันให้พื้นที่หน้าบ้าน น่ามองยิ่งขึ้น ! ที่เราได้เล่าให้ฟังกันไปเมื่อสักครู่นี้ เราหวังว่าจะเป็นประโยชน์ และทำให้ท่านผู้อ่านได้เพลิดเพลินไปกับเนื้อหาสาระ อย่างไรก็ตามหากบทความนี้เป็นประโยชน์ต่อคุณอย่าลืมส่งต่อให้กับคนที่คุณรักได้อ่านกันนะคะ และครั้งนี้ต้องขออนุญาตลากันไปก่อน แล้วพบกันใหม่กับเรื่องราวดีๆที่เกี่ยวกับต้นไม้ได้ใหม่ในครั้งหน้า
วิธีดูแลสวนหน้าฝน
เพื่อปกป้องและรักษาสวนของเราให้เขียวขจี สวยงาม น่ามอง ไม่เหี่ยวเฉาเพราะโดนสายฝนทำลาย ไปดูวิธีดูแลสวนให้สวยตลอดฤดูฝนกันค่ะ
หน้าฝนถือเป็นช่วงเวลาที่ต้องดูแลบ้านเป็นพิเศษ เนื่องจากบ้านต้องเจอทั้งแสงแดดและสายฝน หลังคาบ้าน ผนัง หน้าต่าง จึงต้องได้รับการดูแลที่มากขึ้น โดยเฉพาะกับสวนที่อยู่นอกบ้านที่ต้องเจอสายฝนเต็ม ๆ เพื่อปกป้องและรักษาความสวยของสวนให้คงเดิม กระปุกดอทคอมจึงได้รวบรวมวิธีดูแลสวนในหน้าฝนมาฝาก
1. ปกป้องรากด้วยเปลือกไข่
สำหรับต้นไม้เล็ก ๆ ที่เพิ่งงอกใหม่หรือเพิ่งนำลงดินและรากยังไม่แข็งแรง ให้นำเปลือกไข่บดหยาบ ๆ มาโรยรอบโคนต้นไม้ เพราะเปลือกไข่ช่วยป้องกันการชะล้างหน้าดินของน้ำฝนได้
2. กำจัดวัชพืช
ถึงแม้ว่าศัตรูพืชจะเหี่ยวแห้งไปแล้วในช่วงที่แดดแรง แต่เมื่อโดนฝนก็อาจกลับมาเจริญเติบโตอีกครั้งถ้ารากยังอยู่ ฉะนั้นจึงควรกำจัดด้วยการถอนทั้งราก เพื่อป้องกันไม่ให้เหล่าวัชพืชฟื้นคืนมาได้อีก
3. กำจัดแหล่งน้ำขัง
เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายแล้ว เมื่อทิ้งไว้นาน ๆ แหล่งน้ำขังอาจจะส่งกลิ่นเหม็นเน่าตามมาอีกด้วย ดังนั้นจึงควรให้เทภาชนะที่มีน้ำขังทิ้ง ล้างด้วยน้ำเปล่า จากนั้นคว่ำเก็บไว้ให้เรียบร้อย
4. ขุดทางระบายน้ำ
เพื่อป้องกันน้ำขังในสวนและน้ำท่วมต้นไม้ ในสวนควรจะมีทางระบายน้ำเพิ่ม วิธีทำง่าย ๆ คือให้ขุดดินเป็นร่องเล็ก ๆ ตามขอบสนามหญ้าต่อไปยังทางระบายน้ำออก
5. ใช้ผ้ายางคลุมรักษาหน้าดิน
หน้าดินที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อพืชจะถูกน้ำฝนชะล้างตอนฝนตก ให้รักษาหน้าดินด้วยการนำผ้ายางหรือแผ่นพลาสติกเจาะรูเล็ก ๆ ไว้สำหรับคลุมหน้าดินตอนฝนตกและพอให้มีช่องว่างระบายอากาศ
6. ย้ายต้นไม้หาแสงแดด
เนื่องจากอากาศช่วงหน้าฝนมักจะมีเมฆมาก มืดครึ้ม แสงแดดจึงอาจไม่เพียงพอสำหรับต้นไม้ที่ชอบแดดจัด ซึ่งจะส่งผลต่อการเจริญเติบโต ฉะนั้นจึงควรย้ายต้นไม้เหล่านั้นมาไว้ในจุดที่มีแสงแดดส่องทั่วถึงบ้าง
7. ลดการให้น้ำ
ต้นไม้ได้รับน้ำที่เพียงพอแล้วในหน้าฝน ฉะนั้นควรงดการรดน้ำบ้างบางวัน แต่ทั้งนี้ต้องคอยสังเกตดินบริเวณรอบต้นไม้ด้วย ถ้าดินแห้งแสดงว่าน้ำฝนระเหยจากดินหมดแล้ว ก็ควรจะรดน้ำเพิ่ม
8. หลีกเลี่ยงการเดินในสวนหลังฝนตก
หลังฝนตกดินในสวนจะชื้น แฉะ เละ เพื่อรักษาสภาพของดินและหญ้าให้หลีกเลี่ยงการเดินย่ำลงดินโดยตรง เพราะจะทำให้สวนเละได้ ควรหาแผ่นไม้มารองตามทางเดินแทน
9. ใช้ปุ๋ยหมักธรรมชาติ
แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ปุ๋ยเคมี เนื่องจากฝนจะชะล้างปุ๋ยไปตามดิน ซึ่งถ้าใช้ปุ๋ยเคมีไส้เดือนที่ช่วยพรวนดินให้ต้นไม้อาจจะโดนสารเคมีที่มาจากน้ำและตายได้ เพื่อเป็นการรักษาสภาพดินและไส้เดือนในดินควรใช้ปุ๋ยหมักแทน
10. ปลูกต้นไม้
สภาพอากาศหน้าฝนถือว่าเหมาะอย่างยิ่งกับการนำเมล็ดพันธุ์และต้นไม้ใหม่ลงปลูก ต้นไม้และดอกไม้ในสวนจะงอกงามเนื่องจากได้รับน้ำที่เพียงพอทุกวัน แต่ทั้งนี้การปลูกต้นไม้ขนาดเล็กและเพาะเมล็ดควรจะเก็บไว้ในร่มให้นานกว่าเดิม ต้องรอให้ลำต้นและรากแข็งแรงพอที่จะรับมือกับน้ำฝนก่อนแล้วจึงย้ายไปปลูกกลางแจ้ง
แม้ฝนจะนำความชุ่มฉ่ำและช่วยให้สวนของเราเขียวขจีโดยไม่ต้องรดน้ำบ่อย ๆ แต่ก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยมากเกินไป ควรหมั่นดูแลดิน ต้นไม้ และสนามหญ้าในหน้าฝนให้ถูกวิธีด้วยนะคะ สวนของคุณจึงจะสวยงามไปตลอดทั้งปี