บ้านมินิมอล 2 ชั้น

บ้านมินิมอล 2 ชั้น

บ้านมินิมอล 2 ชั้น

บ้านมินิมอล 2 ชั้น

บ้านมินิมอล 2 ชั้น บ้านหลังคาเฉียงเอียงสูง มุงเมทัลชีทให้เป็นผืนเดียวบ้านที่เราเห็นได้ทั่ว ๆ ไป ก็จะมีตั้งแต่บ้านชั้นเดียว สองชั้น สามชั้น ถ้าจะพิเศษสักหน่อยก็อาจจะเป็นบ้านชั้นครึ่ง ที่มีชั้นเดียวด้านหน้าและเพิ่มเป็นสองชั้นด้านหลัง ซึ่งส่วนใหญ่จะออกแบบหลังคาให้แยกส่วนโครงหลังคาเป็นอิสระจากกัน ทำให้เห็นชัดว่าบ้านมี 2 ระดับที่แตกต่าง ทั้งนี้เพื่อไม่ให้โครงสร้างรับน้ำหนักมากเกินไป แต่เราเชื่อว่าอาจจะมีหลายคนอยากได้หลังคาที่ดูเป็นผืนเดียวเพื่อลดรอยต่อป้องกันการรั่วซึม สำหรับเนื้อหานี้ มีแนวคิดใหม่ในการทำหลังคาของบ้านชั้นครึ่งที่เรียบต่อเนื่องเป็นผืนเดียวลาดลงมายาว ๆ เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจทีเดียวครับ อ่านเพิ่มเติม

บ้านมินิมอล 2 ชั้น

บ้านหลังนี้สร้างอยู่ในเมืองฮาชิโมโตะ จังหวัดวาคายามะ พื้นที่ใช้สอย 104.3 ตารางเมตร เป็นบ้านสองชั้นที่สร้างขึ้นบนพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาด้านหลัง เจ้าของบ้านจึงต้องการบ้านที่เปิดมุมมองให้มากที่สุด เพื่อที่จะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามและรับแสงธรรมชาติที่เพียงพอ  แต่สิ่งที่โดดเด่นมองเห็นมาแต่ไกลของบ้านนี้คือ หลังคาเมทัลชีท seamless ที่เชื่อมต่อจากอาคารชั้นเดียวด้านหน้าเฉียงขึ้นไปถึงปลายชั้นสอง และโถงทางเข้าตรงประตูหน้าที่ให้ความรู้สึกเหมือนปากถ้ำ

ต้อนรับการมาถึงด้วย Genkan เป็นโถงทางเข้าบ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ใช้สำหรับถอดและใส่รองเท้า มีตู้เก็บรองเท้าให้เรียบร้อยไม่รกตา พร้อมเปลี่ยนเป็นรองเท้าสำหรับภายในก่อนเข้าสู่พื้นที่ใช้ชีวิตในบ้าน โดยจะทำเป็นพื้นต่างระดับพื้นดิน ส่วนถัดไปจะสูงขึ้นประมาณ 10-30 เซนติเมตร ช่วยให้บ้านสะอาดและเป็นสัดส่วน ตรงโซนนี้จะเป็นอาคารชั้นเดียว จากนั้นหลังคาจะค่อย ๆ เฉียงสูงขึ้นไป

จากโจทย์ที่เจ้าของต้องการ สถาปนิกจึงได้วางตำแหน่งหน้าต่างบานใหญ่ในส่วนพื้นที่ใช้งานหลัก คือ ห้องโถงที่มีฟังด์ชันนั่งเล่น ทานข้าว และครัว ชุดประตูหน้าต่างบานเลื่อนกระจกใสเหล่านี้จะเปิดรับแสงแดดทั้งด้านทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งเป็นแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าที่ไม่รุนแรง เมื่อมารวมกับพื้นไม้ ชุดเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน ๆ ผ้าม่านบาง ๆ พริ้วตามสายลม ทำให้บรรยากาศโดยรวมสบายๆ ที่ทุกคนในครอบครัวสามารถเพลิดเพลินกับความเขียวขจีและหันหน้าไปทางธรรมชาติได้ทุกด้าน

ด้านทิศใต้มีระเบียงที่เปิดออกไปชมวิวทิวไม้และภูเขา ส่วนทิศเหนือจะมีระเบียงเชื่อมต่อไปยังสนามหญ้าเล็ก ๆ ที่สมาชิกตัวน้อยชื่นชอบออกไปวิ่งเล่นอาบแสงแดดกับคุณพ่อคุณแม่ เพียงแค่มีธรรมชาติอยู่ในบ้านก็สามารถเพิ่มเวลาคุณภาพสำหรับครอบครัวได้แล้ว

ในอดีตนั้นการปูกระเบื้องหลังคาให้มีความเชื่อมต่อเป็นผืนเดียวใหญ่ ๆ จะค่อนข้างทำได้ยาก เพราะกระเบื้องเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักมาก ต้องคำนวณโครงสร้างให้ดี เพื่อไม่ให้หลังคามีความเสี่ยงในการถล่มลงมา และการแยกส่วนแระกอบหลักคาออกเป็นจุดเล็กจุดน้อยจะทำให้เกิดรอยต่อที่อาจมีการรั่วซึมได้ในอนาคต แต่ในปัจจุบันเรามีวัสดุเมทัลชีทที่ทำจากเหล็กรีดลอน สามารถสั่งตัดตามความยาวหลังคาได้หลายเมตร เพิ่มความเป็นไปได้ในการทำหลังคายาว ๆให้เป็นผืนเดียวกันแบบไม่มีรอยต่อได้ดีขึ้น

บ้านมินิมอล 2 ชั้น

บ้านมินิมอลแสนสงบ มีสวนส่วนตัวข้างใน

คำว่า “ข้อจำกัด” นั้นมีอยู่ในทุกที่ทุกวงการ หากเรามองเป็นอุปสรรคที่ทำให้รู้สึกท้อแล้วรามือไปเสียก่อน ก็อาจจะไม่ได้รับรู้ว่าถ้าลองเปลี่ยนมุมมอง ใส่วิธีการใหม่ ๆ เข้าไปแก้ปัญหา ผลลัพธ์ที่ได้มากลับดีกว่าที่คิด ทัศนคติในการจัดการกับข้อจำกัดจึงมีความสำคัญมากพอๆ กับการมีความรู้ความสามารถ แม้ว่าสถานที่หรือสถานที่จะถือเป็นข้อเสียเปรียบ เช่น ที่ดินแคบหรือที่ดินผิดรูป ที่ตั้งบนเนินไม่ราบเรียบ สภาพแวดล้อมไม่สวยงาม คนที่มีความคิดเชิงบวกจะคิดค้นและแปลงเป็นที่ดินในเชิงบวกในขณะที่สนุกสนาน เหมือนบ้านหลังนี้ในญี่ปุ่นที่ภายนอกดูปิด เงียบ เหมือนจะทึบ แต่ภายในกลับต่างไปอย่างสิ้นเชิง

บ้านมินิมอลแสนสงบ

บ้านโมเดิร์นมินิมอล

โครงการนี้เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นมินิมอลขนาดพื้นที่ 116 ตารางเมตร ดูเผิน ๆ เหมือนไม่มีปัญหาอะไร แต่จริง ๆ แล้วรูปร่างที่ดินค่อนข้างแปลกคือ เหมือนเป็นธงมีเสาตรงปลาย แม้ว่าไซต์จะเปิดทางด้านทิศใต้ แต่ก็อยู่ติดกับลานจอดรถของคอนโดมิเนียมเจ้าของบ้านจึงไม่ต้องการที่จะเปิดตัวอาคารไปทางด้านทิศใต้ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว สถาปนิกจึงตัดสินใจออกแบบอาคารที่ถูกล้อมด้วยกำแพงที่ทำหน้าที่เป็นรั้วบ้านในตัวและจัดพื้นที่เปิดโล่งข้างในแทน

นักออกแบบสร้างพื้นที่ทางเข้ายาวมาถึงประตูที่ทำทางเดินเข้าไปข้างใน เหมือนสอดทางเดินเข้าไปในอาคาร เป็นการแก้ปัญหาข้อจำกัดตามสภาพของที่ดินเมื่อเลื่อนประตูไม้ออกจะพบว่า ภายในมีช่องว่างระหว่างกำแพงกับตัวบ้าน เป็นช่องเปิดขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าไปในซอย เจ้าของบ้านจะได้ความเป็นส่วนตัวและห้องมีแสงธรรมชาติที่แสงสว่างนุ่มนวลตลอดทั้งวัน ด้วยการใส่ช่องแสง skylight ด้านบน

ทำให้บรรยากาศภายในมีความน่าสนใจ นอกจากนี้ พื้นที่ในซอยยังถูกจัดให้เป็นสวนเล็ก ๆ มีประตูกระจกกั้นทำหน้าที่เบลอขอบเขตขอบระหว่างด้านในและด้านนอก การออกแบบบ้านนี้จึงน่าสนุก เพราะเหมือนออกแบบภายในและภายนอกให้แยกจากกัน แต่กลับซ่อนและสร้างสร้างพื้นที่ใช้ชีวิตอิสระไร้ขอบเขตข้างใน

เมื่อเลื่อนประตูไม้ออกจะพบว่า ภายในมีช่องว่างระหว่างกำแพงกับตัวบ้าน เป็นช่องเปิดขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าไปในซอย เจ้าของบ้านจะได้ความเป็นส่วนตัวและห้องมีแสงธรรมชาติที่แสงสว่างนุ่มนวลตลอดทั้งวัน ด้วยการใส่ช่องแสง skylight ด้านบน ทำให้บรรยากาศภายในมีความน่าสนใจ นอกจากนี้ พื้นที่ในซอยยังถูกจัดให้เป็นสวนเล็ก ๆ มีประตูกระจกกั้นทำหน้าที่เบลอขอบเขตขอบระหว่างด้านในและด้านนอก การออกแบบบ้านนี้จึงน่าสนุก เพราะเหมือนออกแบบภายในและภายนอกให้แยกจากกัน แต่กลับซ่อนและสร้างสร้างพื้นที่ใช้ชีวิตอิสระไร้ขอบเขตข้างใน

การให้ความสำคัญต่อวิธีการเข้าสู่ตัวบ้าน การเชื่อมต่อระหว่างภายนอกภายใน พื้นที่ (เสมือน) กลางแจ้ง ทั้งหมดจะทำให้ผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือนสามารถใช้เวลาอย่างสบาย และปรับปรุงคุณภาพชีวิตประจำวันของพวกเขาได้ง่าย สอดคล้องกับความต้องการ และเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมด้วย

บ้านมินิมอลแสนสงบ

Mood&Tone ของบ้าน เน้นที่ความเรียบง่าย สงบ ผ่อนคลาย เหมือนได้อยู่กับธรรมชาติที่ไม่ต้องปรุงแต่งมากมาย ดังที่เราจะเห็นจากการเลือกใช้วัสดุไม้เป็นองค์ประกอบหลักของบ้าน ทั้งในส่วนวัสดุปูพื้น กรอบประตูหน้าต่าง และเฟอร์นิเจอร์ ที่ไม่มีอะไรเกินความจำเป็นโมเดิร์นมินิมอล จึงเหมือนเป็นพื้นที่หลบภัยที่นั่งสงบอย่างมีสมาธิในทุกจุด

ลองนึกภาพตามว่าบริเวณบ้านระนาบเดียวกับเสาไม้นั้นเป็นผนังก่อปิดทึบ แล้วใส่หน้าต่างประตูเหมือนที่เราเห็นในบ้านทั่วไป ความรู้สึกของบ้านจะต่างกับภาพที่เห็นอย่างสิ้นเชิง จากความโปร่ง กว้าง สว่าง เต็มไปด้วยความสบาย จะกลายเป็นแคบ ทึบ จำกัด ลองเลือกสิ่งที่ชอบ มองภาพที่ต้องการเห็นภายใน แล้วนำไปคุยกับสถาปนิกกันดูเพื่อจะได้เป็นเจ้าของบ้านที่น่าอยู่แบบนี้กันนะครับ

ในพื้นที่แคบหรือมีข้อจำกัดตรงที่มีเพื่อนบ้านรายล้อมติด ๆ กัน อาจทำให้ไม่สามารถใส่ช่องแสงด้านข้างได้ หากภายในก่ออิฐปิดทึบแบบบ้านทั่วไป บ้านก็ยิ่งอึดอัดมากขึ้นไป ปัจจุบันมีแนวคิดการแก้ปัญหาใหม่ ๆ เช่น การทำระบบผนังบ้านสองชั้น โดยทำกำแพงชั้นสองสูง ๆ เป็นชั้นนอก แล้วเว้นระยะห่างเป็นทางเดิน จากนั้นใส่ผนังบ้านชั้นในวัสดุกระจก หรือประตูหน้าต่างที่พับเก็บเข้าด้านข้างได้หมด จะช่วยเปิดบ้านให้ดูเหมือนไม่มีผนังจะทำให้บ้านมีความกว้างขึ้นอย่างอิสระ

‘Minimal Style’ แต่งบ้านโมเดิร์นมินิมอล ที่กําลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ คือสไตล์การตกแต่งที่เรียบง่าย ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น หากแต่มากด้วยประโยชน์ รวมไปถึงการเลือกใช้งานสิ่งต่างๆ ตามความจําเป็นเท่านั้น ซึ่งจะถูกจัดวางอย่างมีระเบียบเรียบร้อย เอกลักษณ์ในการตกแต่งสไตล์มินิมอลนั้นมักจะมีโทนสีแบบโมโนโทนหรือสีอ่อนๆ รวมถึงการออกแบบที่มีเส้นสายตาที่ตรงและชาร์ป มีความสมดุลและความผ่อน คลาย

เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่คัดสรรมาตกแต่งในบ้านสไตล์นี้ มักจะตอบสนองการใช้งานได้อย่างครบถ้วน ท่ามกลางความไม่มากไม่น้อยจนเกินพอดี การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลยังนิยมที่จะจัดพื้นที่สเปสให้มีความว่างและดูกว้างเข้าไว้ โดยไม่นิยมการสะสมสิ่งของหรือข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่จําเป็น การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลจึงดูเรียบง่าย น้อยชิ้น แต่ทว่าครบถ้วนในเรื่องของประโยชน์การใช้สอย การตกแต่งบ้านสไตล์นี้จึงเหมาะมากๆ สําหรับหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่รักความสงบและชอบการตกแต่งบ้านที่เน้นความสะอาด ปลอดโปร่ง โล่งสบายเป็นอย่างยิ่ง เราไปดูกันดีกว่าว่าข้อดีของการมีบ้านสไตล์มินิมอลและวิธีการตกแต่งบ้านของคุณให้เป็นสไตล์นี้ จะมีอะไรและต้องทําอย่างไรบ้าง

ข้อดีของการ แต่งบ้าน สไตล์มินิมอล

ความเครียดน้อยลง

ยิ่งมีของมาก ก็ยิ่งมีภาระวุ่นวาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาต้องย้ายที่พัก ที่กว่าจะเก็บและย้ายข้าวของแต่ละทีต้องใช้เวลา แถมถ้าใครไม่มีรถส่วนตัว ก็อาจจะต้องคอยทะยอยย้ายของจากที่พักเก่า ไปยังที่ใหม่หลายรอบกว่าจะครบ ทั้งเหนื่อย ทั้งเครียด แต่ถ้าคุณมีของน้อยชิ้นที่เป็นของที่มีประโยชน์ต่อการใช้สอยจริงๆ นอกจากจะไม่ทำให้บ้านรกไปด้วยของใช้ที่ไม่จำเป็นแล้ว ยังทำให้บ้านของคุณดูเรียบง่าย เห็นแล้วรู้สึกสบายตา สบายใจได้อีกด้วยนะ

ทำให้บ้านดูน่าดึงดูดมากขึ้น

ลองนึกถึงภาพถ่ายของบ้านที่เต็มไปด้วยของใช้มากมาย กับภาพของบ้านสไตล์มินิมอลที่ดูเผินๆ แล้วดูเรียบไม่มีอะไร แต่จริงๆ แล้วแฝงไว้ด้วยความสวยงามของเฟอร์นิเจอร์เรียบหรู งานศิลปะดีๆ สักชิ้น และของตกแต่งบ้านน้อยชิ้น แต่ว่าแต่ละอันช่างดูเก๋ไก๋เหลือเกิน ซึ่งบ้านสไตล์มินิมอลแบบนี้ต่างหาก ที่เห็นเมื่อไหร่แล้วต้องทำให้เราหยุดดู ดึงความสนใจได้ดีนักเชียว ซึ่งถ้าคุณอยากให้บ้านของคุณดูน่าดึงดูดมากขึ้น ก็สามารถลองแต่งบ้านให้เป็นสไตล์มินิมอลดูได้

ทำความสะอาดได้ง่ายกว่า

แค่คิดว่าจะต้องทำความสะอาดบ้านที่เต็มไปด้วยของตกแต่ง ของใช้มากมาย ก็รู้สึกเหนื่อยแล้วใช่ไหมล่ะ เวลาจะปัดกวาด เช็ดถู หรือดูดฝุ่นที ก็เสียเวลาไปหลายชั่วโมงทีเดียว แถมยิ่งของเยอะเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งต้องหมั่นทำความสะอาดบ่อยขึ้นเท่านั้น ซึ่งสามารถนำไปสู่ข้อแรกคือ ทำให้เครียดและหงุดหงิด (เพราะใครจะอยากมานั่งทำความสะอาดบ้านบ่อยๆ?) แต่ลองนึกภาพถ้าบ้านของคุณมีของน้อยชิ้นดูสิ ทำความสะอาดแป๊ปเดียวก็เสร็จ แถมยังมีเวลาไปทำอย่างอื่นมากขึ้นอีกต่างหาก

พื้นที่บนชั้นวางของ และบนพื้นไม่รก ทุกอย่างดูสบายตา

บ้านสไตล์มินิมอลจะต้องไม่เกะกะไปด้วยของใช้ ไอเท็ม หรือเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นคือถูกคัดมาแล้วว่าจำเป็นต่อการใช้ชีวิตจริงๆ ถ้าคุณมีของเก่าเก็บที่มีไว้ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร จงนำของเหล่านั้นไปบริจาค หรือทิ้งซะ เพราะถ้ามันมีความสำคัญสำหรับคุณจริงๆ คุณคงไม่เก็บมันไว้ไม่เอาออกมาใช้สักทีอย่างนี้หรอกเช่นเดียวกับผนังห้อง ผนังห้องของบ้านสไตล์มินิมอลไม่ควรที่จะอัดแน่นไปด้วยกรอบรูป แต่ถ้าไม่อยากให้ห้องของคุณดูโล่งหรือดูจืดชืดจนเกินไป แนะนำว่าให้หาผลงานศิลปะเจ๋งๆ สัก 1-2 รูปมาติดพอ ส่วนตัวกรอบรูปก็ควรเป็นสีดำ หรือไม่ก็สีน้ำตาลแก่ เน้นพวกสีเรียบเป็นหลัก

หน้าต่างดีไซน์เรียบ

สำหรับหน้าต่าง ลองเลือกแบบเปลือยคู่กับผ้าม่านสีทึบ หรือจะติดม่านแบบไม้เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดูเป็นธรรมชาติก็ได้ แต่อะไรที่ดูหรูหรา ฟู่ฟ่า เกินความพอดี อย่างผ้าม่านลายดอก หรือลายแพทเทิร์นยุ่งเหยิงๆ นี่ แน่นอนว่าไม่ควรใช้