บ้านชั้นเดียว 3 ห้องนอน เรื่องที่ควรรู้ก่อนออกแบบ บ้านชั้นเดียว อยากจะสร้าง บ้านชั้นเดียว สักหลังเป็นของตัวเอง สิ่งสำคัญที่นอกเหนือจากเงินทุนแล้ว การเตรียมความพร้อมที่ดีในการออกแบบบ้านให้ตรงตามความต้องการ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดระหว่างการก่อสร้าง เราควรเสริมความรู้เรื่องของการมีบ้านอย่างไรดี
บ้านชั้นเดียว 3 ห้องนอน
1.กำหนดรูปแบบบ้าน
ปัจจุบันมีบริษัทรับออกแบบ และก่อสร้างบ้านเป็นจำนวนมาก สามารถปรึกษาข้อสงสัยต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ บ้านชั้นเดียว บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ หรือบ้านแฝด อีกทั้งสไตล์ของบ้านก็มีให้เลือกมากมาย เช่น สไตล์โมเดิร์น สไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ฯลฯ
นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงขนาด และจำนวนห้องให้พอดีกับสมาชิกในครอบครัว เพราะคุณคงไม่อยากให้ใครมานอนเบียดคุณใช่ไหมคะ ทั้งนี้ก็ต้องคำนึงถึงงบในการก่อสร้างด้วย ต้องไม่ใหญ่จนเกินไป เผื่องบเอาไว้สักนิดสำหรับสร้างสระว่ายน้ำเล็กๆ ไว้ทำกิจกรรมร่วมกันกับคนในครอบครัวก็ดีไม่ใช่น้อย
2.เลือกบริษัทรับออกแบบบ้าน
เมื่อกำหนดรูปแบบของตัวบ้านไว้เรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปคือ การยื่นขออนุญาตปลูกสร้างกับหน่วยงานราชการในพื้นที่ หากคุณยื่นกู้เงินกับธนาคาร ต้องแนบแบบรูปรายการให้ธนาคารพิจารณาด้วย ซึ่งการจัดทำแบบดังกล่าวอาจทำได้หลายวิธี
เช่น จ้างสถาปนิกอิสระโดยตรง บริษัทรับออกแบบ และบริษัทสร้างบ้านแบบครบวงจร กำหนดรายละเอียดองค์ประกอบของบ้านให้ชัดเจน ตรงตามความต้องการ แล้วค่อยลงนามว่าจ้าง และเมื่อแบบเสร็จแล้วให้ตรวจสอบรายละเอียดให้แน่ใจ ก่อนชำระค่าดำเนินการค่ะ
- ตรวจสอบแบบแปลนว่าห้องต่างๆ เช่น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องพักผ่อน ฯลฯ ได้ถูกจัดวางไว้ตรงตามความต้องการของคุณหรือไม่
- ตรวจสอบความสวยงามจากแบบรูปทั้ง 4 ด้าน จนเป็นที่พอใจ
- ตรวจสอบวัสดุที่ใช้ เช่น กระเบื้อง สุขภัณฑ์ งานไม้ งานประตู ฯลฯ ว่ามีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน
- ตรวจสอบผังบริเวณบ้าน ว่าถูกจัดวางในตำแหน่งที่ถูกต้องแล้วหรือไม่
- หากตรวจสอบแล้วยังมีส่วนที่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข ให้รีบแจ้งผู้ออกแบบเพื่อดำเนินการแก้ไขทันที เมื่อผู้ออกแบบแก้ไขเสร็จเรียบร้อย ให้คุณตรวจสอบอีกครั้ง หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เพิ่มเติม จึงจ่ายค่าดำเนินการต่อไป
3.เลือกบริษัทรับสร้างบ้าน
ปัจจุบันบริษัทรับสร้างบ้านมีหลายแห่งให้เลือกใช้บริการ หากไม่ทราบว่าบริษัทใดน่าเชื่อถือบ้าง เรามีวิธีเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน โดยพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- 1.ชื่อเสียง ผลงานในอดีต หรือประวัติของบริษัท ว่ามีประวัติการก่อสร้างเป็นอย่างไร อาจขอดูบ้านที่บริษัทนั้นเคยสร้างไว้เพื่อประกอบการตัดสินใจ
- 2.บริการหลังการขาย ดูแลลูกค้าอย่างสม่ำเสมอหรือไม่ ให้บริการ หรือแก้ปัญหาได้ช้าหรือเร็ว
- 3.ทรัพยากรของบริษัท จำนวนบุคลากรเพียงพอต่อการก่อสร้างหรือไม่ หรือบุคลากรมีประสบการณ์มากน้อยเพียงใด เช่น วิศวกรโครงการ ช่างควบคุมงาน แม้กระทั่งผู้บริหารการก่อสร้างมีความเป็นมืออาชีพมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้เพื่อให้คุณได้บ้านที่สมบูรณ์แบบที่สุด
4.ทำสัญญาว่าจ้างก่อสร้าง
เมื่อตัดสินใจว่าจ้างกับบริษัทดังกล่าวแล้ว ให้ทำสัญญาร่วมกันโดยพิจารณารายละเอียดในสัญญาให้รอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งงวดชำระ การประกันสิ่งปลูกสร้าง ระยะเวลาในการสร้างบ้าน หรือเงื่อนไขอื่นๆ เพื่อป้องกันการขัดแย้งในภายหลัง เช่น เมื่อดำเนินการก่อสร้างไปแล้วเกิดข้อขัดแย้ง จะทำให้เกิดผลกระทบในทางลบของทุกฝ่ายได้
5.เตรียมพื้นที่ก่อสร้าง
ท่านจะต้องจัดเตรียมสถานที่ก่อสร้างบ้านให้พร้อม ก่อนที่จะลงมือดำเนินการก่อสร้าง เช่น หากพื้นที่อยู่ในระดับต่ำเกินไป ควรถมดินให้สูงขึ้นเพื่อความปลอดภัยจากสภาวะน้ำท่วม หรือการย้ายเสาไฟฟ้า สาธารณูปโภคอื่นๆ ที่กีดขวาง ต้องจัดการให้เรียบร้อย ก่อนจะแจ้งให้บริษัทเข้าดำเนินการก่อสร้าง
6.ขั้นตอนงานก่อสร้าง
เราสามารถแบ่งขั้นตอนการก่อสร้างได้ ดังนี้ งานฐานและโครงสร้าง ในส่วนนี้ถือเป็นส่วนสำคัญที่สุด หากมีการเปลี่ยนแปลงภายหลังจะมีค่าใช้จ่ายสูง จึงจำเป็นต้องตัดสินใจให้แน่ชัดก่อนลงมือตอกเสาเข็ม เนื่องจากโครงสร้างมีความสัมพันธ์กันทั้งอาคาร หากก่อสร้างไปแล้วอยากจะเปลี่ยนแปลงเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง จะกลายเป็นเรื่องยาก และทำให้เสียเวลาในการก่อสร้างส่วนอื่นๆ
งานผนังและหลังคา สำหรับจุดนี้เปรียบได้ดังหน้าตาของคน เพราะเป็นสิ่งแรกที่คนผ่านไปผ่านมาจะมองเห็นก่อน จึงต้องเลือกผนังและหลังคาให้สวยงาม อีกทั้งต้องคำนึงถึงการป้องกันความร้อนจากแสงแดด และน้ำฝน ดังนั้น ควรเลือกวัสดุก่อสร้างที่ดี มีคุณภาพ แข็งแรง คงทนต่อการใช้งาน บ้าน 2 ชั้น
แบบที่ 1 บ้านชั้นเดียวขนาดพอเหมาะ 3 ห้องนอน
บ้านชั้นเดียว พื้นที่ใช้สอยขนาด 100.7 ตารางเมตร ออกแบบอย่างเรียบง่ายแต่น่ารักน่ามอง ด้วยการยกพื้นเล็กน้อย พอจะช่วยเรื่องน้ำท่วมได้พอประมาณ ตัวบ้านกรุไม้ทาด้วยสีขาว-ครีม ให้ความรู้สึกนุ่มนวลอ่อนโยน หน้าบ้านมีเฉลียงเล็กๆ กันตกไม้สีขาวแบบโปร่ง โรงจอดรถอยู่ข้างบ้าน เชื่อมหลังคาออกมาจากตัวบ้าน เป็นโรงจอดรถทั่วไป แต่ใช้งานได้ดีทีเดียว
เข้าไปชมภายในบ้าน การตกแต่งบ้าน 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำหลังนี้ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย อยู่สบายในพื้นที่ใช้สอยที่มีอย่างพอเหมาะ ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก ปูพื้นด้วยพรมสีเทาให้การ สัมผัสที่สบายเท้า ชั้นวางทีวีเตี้ยๆจัดวางไว้ติดหน้าต่าง ที่ติดผ้าม่านจีบสองชั้นไว้กรองแสง แสงสว่างจากภายนอก ที่ส่องเข้ามาจากช่องหน้าต่างกระจก ทำให้ห้องขนาดเล็กไม่อึดอัดจนเกินไป และหากวันไหนอากาศดีดี แดดแรงๆ ก็สามารถเปิดม่านเพื่อให้ แสงเข้ามาทำความสะอาดเชื้อโรคในห้องได้ด้วย
ห้องครัวเล็ก เคาเตอร์ติดผนังรูปตัว L หน้าบานสีขาว ผนังเคาเตอร์กรุกระเบื้องแผ่นเล็กสีขาว สีที่สะอาดสะอ้านเช่นนี้ ต้องหมั่นทำความ สะอาดสักหน่อย ห้องจะได้สวยและน่าใช้งานอยู่เสมอ
ห้องนอนทั้ง 3 ห้อง ไม่มีห้องน้ำในตัว พื้นไม้ทำให้ภายใน ห้องดูอบอุ่น เฟอร์นิเจอร์ที่นำมาตกแต่งจึงใช้เป็นวัสดุจากธรรมชาติเพื่อให้ดูเข้ากันอย่างลงตัว งบประมาณการก่อสร้างบ้านชั้นเดียวหลังนี้ คร่าวๆอยู่ที่ 1.3 – 1.4 ล้านบาท ไม่รวมการตกแต่งภายใน
แบบที่ 2 บ้านชั้นเดียว 78.5 ตร.ม. 3 ห้องนอน
บ้านชั้นเดียวสีขาว พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 78.5 ตารางเมตร งบประมาณการก่อสร้าง 1 – 1.2 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ การออกแบบด้วยความเรียบง่าย ตัวบ้านหลังคาหน้าจั่ว โรงจอดรถหน้าบ้าน ออกแบบหลังคาให้ซ้อนอยู่บนหลังคาบ้านลาดเอียงลงมา นอกจากจะเป็นหลังคาโรงจอดรถแล้ว ยังช่วยกันแดด กันฝนหน้าบ้านได้เป็นอย่างดี
หากมองจากด้านหน้าส่วนของตัวบ้านที่เชื่อมต่อกับหลังคา คือส่วนของห้องนอน ช่องผนังกระจกรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง อาจจะทำให้ดูไม่เป็นส่วนตัวเท่าไรนัก ผนังภายนอกตรงกระจกจึงติดระแนงเหล็กสีดำอีกชั้น เพิ่มความปลอดภัยและพลางสายตาจากภายนอกไม่ให้มองเข้าไปเห็นภายในห้องนอน
ภายในบ้านขนาดพอเหมาะสำหรับครอบครัวเล็กๆ จัดสรรมุมนั่งเล่นและห้องครัวเชื่อมตัวกัน เพื่อให้ภายในปลอดโปร่งและเป็นการประหยัดเนื้อที่ใช้สอย มุมนั่งเล่นจัดวางโซฟาตัวใหญ่ ตัวเล็กหันหน้าเข้าหากัน ช่องผนังติดกระจกให้ควาปลอดโปร่งและไว้คอยรับแสงสว่าง
เคาเตอร์ครัวติดผนังรูปตัว L หน้าบานสีขาว กรุผนังเคาเตอร์ด้วยกระเบื้องสีขาว สะอาดสะอ้าน และทำให้มุมเล็กๆดูไม่อึดอัด ปรตูกระจกบานเลื่อน เชื่อมออกไปยังมุมนั่งเล่นข้างบ้าน ระแนงไม้สีดำกันฉากผนัง ริมระแนงทำกระบะแนวยาวไว้ปลูกต้นไม้ เพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี
บ้านห้องนอน 3 ห้อง จัดแต่งเป็นห้องนอน 2 ห้อง ห้องนอนทั้งสองห้องเลือกใช้บิวท์อินติดผนัง เป็นตู้เก็บเสื้อผ้า เก็บของใช้ เพื่อประหยัดเนื้อที่ที่มีอยู่ บิวท์อินกระจกช่วยให้ห้องขนาดเล็กดูกว้างขวางมากขึ้น ให้การพักผ่อนในแต่ละคืนผ่อนคลายกว่าที่เป็น อีก 1 ห้องที่เหลือ ตกแต่งเป็นห้องทำงาน อ่านหนังสือ ส่วนห้องน้ำแต่งด้วยโทนสีขาวเน้นความสว่างเช่นกัน มีอ่างอาบน้ำแบบฝัง และเคาเตอร์อ่างล้างหน้ามีลิ้นชักเก็บของ เพื่อประโยชน์การใช้สอยอย่างคุ้มค่า
เนื่องด้วยพื้นที่ภายในห้องต่าง ๆ มีขนาดเล็ก ไม่ได้กว้างขวางเท่าไรนัก จึงต้องเลือกใช้โทนสีสว่างเช่นสีขาวมาตกแต่ง และเติมสีสันอื่น ๆ เข้าไปในเฟอร์นิเจอร์ เพื่อให้ดูมีชีวิตชีวา ไม่จืดชืดจนเกินไป ด้วยไอเดียที่เรียบง่ายเช่นนี้ สามารถทำให้บ้านขนาด 73 ตารางเมตร ดูน่าอยู่และผ่อนคลายได้ไม่น้อยเลย