โฮมออฟฟิศ
โฮมออฟฟิศ สำนักงานกึ่งที่พัก มีลักษณะคล้ายทาวน์โฮม อาคารมี 3-4 ชั้น โดยบริเวณชั้น 1-2 มักทำเป็นออฟฟิศ มีการแบ่งสัดส่วนสำหรับการทำงานอย่างชัดเจน โดยไม่ต้องมาปรับเปลี่ยนทีหลังเหมือนทาวน์โฮม และมีที่จอดรถกว้างขวางจอดได้หลายคัน เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลางที่มีพนักงานไม่กี่คน บรรยากาศเป็นกันเองสบาย ๆ คล้ายบ้าน ราคาอยู่ที่ประมาณ 1-6 ล้านบาทแบบบ้าน
เป็นที่นิยมมากสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กอย่างสตาร์ทอัพและ SME เพราะเป็นได้ทั้งที่อยู่อาศัยและออฟฟิศในเวลาเดียวกัน และการทำงานในโฮมออฟฟิศยังให้บรรยากาศที่สบาย เป็นกันเอง แถมตกแต่งให้สวยงามตามใจชอบได้อีกด้วย ซึ่งเราก็มีข้อดีข้อเสียของโฮมออฟฟิศมาแนะนำเพื่อประกอบการตัดสินใจ
เมื่อพูดถึง ‘โฮมออฟฟิศ’ หลายคนคงเข้าใจว่าเป็นที่พักอาศัย ที่นำมาปรับเปลี่ยนเป็นสำนักงาน แต่ในปัจจุบันโฮมออฟฟิศ มีการออกแบบการก่อสร้างให้เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและที่ทำงานในตัว ซึ่งมีทั้งดีไซน์และฟังก์ชันต่าง ๆ ที่ยืดหยุ่นได้ ไม่เพียงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองเท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์คนที่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง จึงทำให้โฮมออฟฟิศได้รับความนิยมอย่างมากในยุคนี้ มาดูกันว่าอะไรทำให้โฮมออฟฟิศกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และเป็นเทรนด์ที่อยู่อาศัยที่มาแรงของคนเมืองในยุคนี้
จริง ๆ แล้วคำว่า โฮมออฟฟิศ เป็นคำที่เกิดขึ้น มาสักระยะใหญ่ ๆ แล้ว และในโลก ของการทำงานจริง ๆ ก็เริ่มมีปรากฏลักษณะการสร้าง Home Office แบบนี้ กันมาบ้าง เพียงแต่อาจจะยังดูไม่สำคัญนักในสายตาของผู้คนทั่วไป แต่พอเกิดวิกฤตโควิดขึ้นมาเรื่องของ Work from Home กลายเป็นสิ่งที่ผลักดันให้ Home Office กลายเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการและผู้ปฏิบัติงานเริ่มให้ความสำคัญมากขึ้น
เดิมทีแนวคิดการทำโฮมออฟฟิศ นั้นค่อย ๆ พัฒนามา เรื่อย ๆ ตาม Gen ของคนทำงานและผู้ประกอบการที่เป็นคนรุ่นใหม่ ทุกคนเริ่มมองว่าเทคโนโลยี ออนไลน์ เริ่มเข้ามาช่วยให้การทำงานหลาย ๆ อย่าง ง่ายและกระชับขึ้น สามารถประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของค่าเช่าสำนักงาน และยิ่งมีวิกฤตโควิดมากระตุ้น Home Office จึงกลายเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตยุคใหม่นี้ไปเลย
ข้อดีข้อเสียของโฮมออฟฟิศ (HOME OFFICE)
ข้อดี
- ใช้เป็นที่อยู่และที่ทำงานไปในตัว
โฮมออฟฟิศให้ผลดีกับผู้ประกอบการ ทำให้ไม่ต้องเสียเงินสองต่อในการเช่าหรือซื้อทั้งที่อยู่อาศัยและออฟฟิศ และไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปกลับออฟฟิศ - จอดรถสะดวก
โฮมออฟฟิศมีพื้นที่ด้านหน้าที่กว้างขวาง จอดรถได้ประมาณ 4-6 คัน และยังจอดได้ง่ายกว่าออฟฟิศที่อยู่บนตึกสูง ทำให้ต้องวนหาที่จอดรถ หรือต้องแย่งที่จอดรถกับพนักงานคนอื่นๆ ที่สำคัญเมื่อลูกค้ามาติดต่องานที่ออฟฟิศก็ทำให้ประทับใจกับการจอดรถที่ง่ายดายกว่าด้วย - ลดต้นทุนเรื่องค่าส่วนกลางอาคารสำนักงาน
การเช่าออฟฟิศตามอาคารสำนักงาน มักมีค่าส่วนกลาง เช่น ลิฟต์ ห้องน้ำส่วนกลาง ค่าจ้างแม่บ้านทำความสะอาด เป็นต้น ถ้าเป็นโฮมออฟฟิศก็จะลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปได้ - พนักงานใช้ส่วนกลางของโฮมออฟฟิศได้
โครงการโฮมออฟฟิศมักมีฟิตเนส สระว่ายน้ำ พนักงานสามารถไปใช้งานได้ ถือเป็นสวัสดิการเพิ่มเติมที่เราไม่ต้องออกเงินเพิ่ม - ลดต้นทุนที่ต้องจ่ายทั้งที่บ้านและออฟฟิศ
เช่น ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ อย่างค่าน้ำค่าไฟ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้อยู่แล้ว ถ้าสามารถรวบมาเป็นค่าใช้จ่ายในบิลเดียวกันได้ ก็จะทำให้ลดต้นทุนไปได้มาก - บรรยากาศผ่อนคลาย
โฮมออฟฟิศจะให้บรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง พนักงานจะรู้สึกเหมือนได้ทำงานอยู่บ้าน - การแต่งตัวยืดหยุ่น
ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวเป็นทางการมาทำงานก็ได้ เพราะพนักงานมีไม่กี่คน และไม่ได้พบปะผู้คนมากมาย แค่แต่งตัวให้เรียบร้อยก็ใช้ได้ ยกเว้นถ้าต้องพบลูกค้าก็ควรแต่งตัวให้ดูดีขึ้นมาหน่อย
ข้อเสีย
- ความน่าเชื่อถือ
ภาพลักษณ์ของโฮมออฟฟิศมักเป็นทางการน้อยกว่าออฟฟิศที่เป็นอาคารสำนักงาน - ทำเลมักอยู่ชานเมือง
โฮมออฟฟิศมักอยู่ไกลจากรถไฟฟ้า หรืออยู่ลึกเข้าไปในซอยต่างๆ เนื่องจากที่ดินมีราคาที่ถูกกว่า ทำให้เดินทางลำบากกว่า ขณะที่ที่ดินใกล้รถไฟฟ้า ใจกลางเมือง มักถูกสร้างเป็นอาคารสำนักงานเพื่อให้คุ้มกับค่าที่ดิน - ต้องลงทุนก้อนใหญ่เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์สำนักงาน
ถ้าเป็นออฟฟิศให้เช่าตามอาคารสำนักงาน อย่างน้อยมักมีโต๊ะทำงาน ชั้นวางของ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็น แต่ถ้าเป็นโฮมออฟฟิศมักต้องลงทุนเองทั้งหมดแบบบ้าน
โฮมออฟฟิศ ชีวิตติดงาน โชว์โครงสร้างเหล็กเท่ ๆ
“บ้านสถาปนิก” ถ้าได้ยินคำนี้ เชื่อว่ามีผู้อ่านไม่น้อย ที่จะต้องตาโตตื่นเต้น ด้วยความคาดหวังว่าคนที่ทำหน้าที่ออกแบบบ้านให้ผู้คนมากกมาย รูปแบบบ้านจะต้องเลิศหรู แปลกใหม่ ประกอบด้วยวัสดุน่าสนใจพร้อมฟังก์ชันที่พิสดารพันลึก ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ แล้วเราพบว่าบ้านสถาปนิกไม่ว่าจะในไทยหรือต่างประเทศหลาย ๆ หลัง หน้าตาไม่ได้ต่างจากบ้านอื่น ๆ มากมายแบบที่เราคิด วัสดุก็ธรรมดาหาได้ทั่วไปในท้องตลาด เพียงแต่สิ่งที่แตกต่างอยู่ที่การจัดมุมมอง สเปซ ฟังก์ชันและการจับคู่วัสดุให้ออกมาตรงโจทย์ตรงใจผู้อยู่อาศัยนั่นเองครับแบบบ้าน
โครงการที่อยู่อาศัยและสำนักงานที่ตั้งอยู่ชานเมืองศรีลังกานี้ มีพื้นที่ใช้สอย 224.8 ตารางเมตร เป็นโฮมสตูดิโอของสถาปนิกและครอบครัว ด้วยความที่เป็นสถาปนิกจึงพยายามมองหาความลงตัวระหว่าง ความชอบ งบประมาณ การใช้งานพื้นที่ภายใน และความสอดคล้องกับบริบทภายนอก ที่ดินหันหน้าไปทางป่าสงวนและทะเลสาบได้มุมมองของธรรมชาติสวยงาม เจ้าของบ้านจึงเลือกใส่ผนังกระจกตลอดแนวด้านนั้นและทำบ้านสูงสองชั้น เพื่อให้รับวิวได้ในระดับที่แตกต่างกัน
ภูมิทัศน์ต้นไม้รายรอบดูน่าสบาย ทำให้สถาปนิกเลือกทำพื้นชานไม้นอกบ้านเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำที่ยื่นออกไปในทิวไม้ และประตูหลักบานเฟี้ยมกระจก จัดกรอบบ้านและจับภาพทิวทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ ช่องเปิดกว้างสร้างช่องว่างขนาดใหญ่ ดึงธรรมชาติกลมกลืนเข้ามาด้านในให้มีความต่อเนื่องกันระหว่างภายในและภายนอกจนดูเหมือนเป็นสเปซเดียวกัน เป็นความเรียบง่ายตรงไปตรงมาที่สร้างพื้นที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการใช้ชีวิตอ่านเพิ่มเติม
องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมและวัสดุที่แตกต่างกันถูกประสานเข้าด้วยกันที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นเหล็กบีม อิฐ ไม้ และกระจก ที่ให้ความรู้สึกขัดแย้งกันอยู่ในตัวแต่กลับกลมกลืนในแบบโมเดิร์นอินดัสเทรียล ที่สามารถแสดงตัวตนของแต่ละวัสดุออกมาอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องปรุงแต่ง ทำให้บ้านนี้เปรียบเสมือนเป็นผืนผ้าใบที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ใช้ในการวาดภาพเรื่องราวในชีวิตของพวกเขาได้เต็มที่
ในอาคารแบ่งเป็นโซนส่วนตัวและโซนออฟฟิศ ซึ่งจะมีประตูแบ่งแยกห้องเอาไว้ แต่ก็สามารถเดินไปมาเหมือนอยู่บ้านมากกว่าสถานที่ทำงาน เมื่อรู้สึกล้า ๆ ก็ออกมาซึมซับบรรยากาศธรรมชาติที่รายล้อมอยู่ เมื่อได้พักมือพักสายตาสักครู่ก็เท่ากับเติมพลังงานดี ๆ ให้ตัวเองพร้อมกลับมาสู้กับงานที่รออยู่ข้างหน้าต่อ
ชั้นบนเป็นห้องทำงานส่วนตัวและพบปะกับลูกค้า ออกแบบให้เป็นห้องกระจกกรอบอลูมิเนียม ที่เปิดออกเป็นหน้าต่างรับลมได้ด้วย ความใสของผนังทำให้รู้สึกว่าอาคารดูมีอิสระทางสายตาแบบไร้ขอบเขต เหมือนกำลังทำงานอยู่ในใจกลางธรรมชาติ อย่างไรก็ตามการติดตั้งผนังกระจกรอบด้านแบบนี้ในพื้นที่สภาพอากาศร้อนต้องศึกษาทิศทางแสงและเลือกวัสดุให้ดี เช่น จัดทิศทางที่แสงแดดไม่ส่องรุนแรงช่วงกลางวัน อย่างทิศเหนือหรือทิศตะวันออก ถ้ามีแนวร่มไม้ด้วยก็จะช่วยได้มาก ส่วนกระจกควรเลือกที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสงได้ดี หรือเป็นแบบกระจกลามิเนตสองชั้น สามชั้น ช่วยลดทอนความร้อนจากแสง
การสร้างบ้านโครงสร้างเหล็กมีข้อดีหลายข้อ เช่น ลดระยะเวลาก่อสร้างบ้าน ทำให้จ่ายค่าแรงลดลง โครงสร้างบ้านเหล็กน้ำหนักเบากว่าคอนกรีต จึงลดการใช้เสาเข็มและสามารถรองรับการออกแบบบ้านในรูปทรงแปลกใหม่ได้ ส่วนข้อเสียก็มมีเช่นกัน อาทิ งานเชื่อมเหล็กต้องใช้ช่างที่ฝีมือดีมีประสบการณ์จะทำให้งานออกมาสวยงาม หากช่างทำงานไม่ดีอาจเกิดการรั่วซึมเป็นสนิมได้ในภายหลัง สิ่งที่เป็นข้อเสียหลัก ๆ อีกประการคือเหล็กมีราคาสูง ทำให้ต้นทุนค่าวัสดุสร้างบ้านราคาแพงกว่าบ้านทั่วไป
- สร้างสมดุล Work life blending
สำหรับข้อดีแรกของโฮมออฟฟิศ คือ สามารถสร้างสมดุล ระหว่างการทำงานและใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว เพราะในปัจจุบัน โฮมออฟฟิศถูกออกแบบมาเพื่อ ให้รองรับทั้งไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตและธุรกิจ เรียกได้ว่าซื้อ 1 ได้ถึง 2 ฟังก์ชัน อีกทั้งยังช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง ทำให้ไม่ต้องเสีย เวลาในการเดินทางไป-กลับอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงต่อวัน เนื่องจากโฮมออฟฟิศส่วนใหญ่ มักจะตั้งอยู่ บนทำเลใกล้กับรถไฟฟ้า จึงทำให้ทีมงานหรือลูกค้ามีความสะดวกสบายในการเดินทาง หรือหากมีรถยนต์ส่วนตัว โฮมออฟฟิศก็สามารถตอบโจทย์ตรงจุดนี้ได้ เพราะมีที่จอดรถกว้างขวางสามารถจอดได้หลายคัน นอกจากนี้ยังมีเวลาอยู่กับครอบครัวและสิ่งที่สนใจมากขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่าสามารถจัดสรรเวลาให้มีประโยชน์สูงสุด
- การทำงานมีประสิทธิภาพ
เพราะโฮมออฟฟิศมีความอิสระที่มากกว่าการ ทำงานในออฟฟิศทั่วไป จึงส่งผลให้การทำงานมีความ Productivity มากขึ้น เพราะสามารถกำหนดเวลาเองได้ ความยืดหยุ่นในการแต่งตัว รวมไปถึงบรรยากาศการทำงานที่ผ่อนคลาย ต่างจากออฟฟิศทั่วไปที่ค่อนข้างเป็นทางการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากขึ้น
- ช่วยลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น
การมีบ้านและออฟฟิศอยู่ในพื้นที่เดียว กันสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้มากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ โดยเฉพาะค่าส่วนกลางหรือค่าดูแลรักษาที่คุณต้องจ่ายหากต้องไปเช่าออฟฟิศอยู่ร่วมกับผู้อื่น ซึ่งในจุดนี้โฮมออฟฟิศ สามารถตอบโจทย์ในเรื่องการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นให้คุณได้อย่างดีทีเดียว
การเป็นเจ้าของโฮมออฟฟิศหรือโฮมออฟฟิศหรูในย่านใจกลางเมือง นับเป็นข้อดีที่นอกจากจะเป็นทรัพย์สินที่สร้างรายได้ให้กับเราในอนาคตแล้ว ยังสามารถปล่อยเช่าหรือขายต่อได้อย่างสะดวก ยิ่งถ้าตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันก็จะยิ่งมีมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้น
- ออกแบบพื้นที่ได้ตามต้องการ
หนึ่งในเหตุผลที่โฮมออฟฟิศได้รับความนิยมในปัจจุบัน ก็เพราะมีฟังก์ชันที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยและสถานที่ทำงาน ซึ่งโดยส่วนมากสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ตามความต้องการ เพื่อให้เหมาะสมกับโมเดลธุรกิจต่าง ๆ มากที่สุด ทำให้โฮมออฟฟิศมีความยืดหยุ่นสูงและพร้อมรองรับการเติบโต หรือการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างเหมาะสมอ่านเพิ่มเติม